ตรัง - เรือนจำตรัง จัดโครงการวันพบญาติใกล้ชิดกรณีพิเศษ หลังจากไม่มีกิจกรรมในลักษณะดังกล่าวมา 5 ปี กับ 8 เดือนแล้ว เหตุจากปัญหาการระบาดของโรคไข้หวัด 2009 และยาเสพติด
วันนี้ (28 ม.ค.) นางมะลิวัลย์ พูนสุข ผู้บัญชาการเรือนจำ จ.ตรัง กล่าวว่า ตามที่ได้รับการสนับสนุนจากนโยบายของรัฐบาล และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ในการคืนความสุขให้แก่ประชาชน ทางเรือนจำ จ.ตรัง จึงจัดให้มีกิจกรรมวันพบญาติใกล้ชิดกรณีพิเศษ ครั้งที่ 1 ขึ้น เพื่อเป็นการคืนความสุขให้แก่นักโทษที่ประพฤติตัวดี เป็นนักโทษชั้นดีถึงชั้นเยี่ยม ให้สามารถพบปะกับญาติพี่น้อง และบุคคลในครอบครัวได้อย่างใกล้ชิด หลังจากที่ไม่พบหน้ากันมาเป็นระยะเวลานาน
ทั้งนี้ เนื่องจากเรือนจำ จ.ตรัง ไม่มีกิจกรรมในลักษณะดังกล่าวมาเป็นระยะเวลาประมาณ 5 ปี กับ 8 เดือน ภายหลังจากเกิดโรคไข้หวัด 2009 ระบาด และมีการลักลอบขนยาเสพติดเข้าไปในเรือนจำ จึงทำให้ต้องระงับการเยี่ยมแบบใกล้ชิดมานับตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา และต้องเพิ่มมาตรการในการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดมากขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาภายในเรือนจำ
ปัจจุบันนี้ เรือนจำ จ.ตรัง มีนักโทษรวมทั้งหมด 2,710 คน ส่วนใหญ่เป็นนักโทษจากคดียาเสพติดที่มีมากที่สุด คิดเป็นประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ ถัดมาก็เป็นคดีฆ่า และคดีอื่นๆ เป็นส่วนน้อย โดยกิจกรรมนี้เป็นการให้โอกาสแก่นักโทษชั้นดี ที่มีจำนวน 1,200 คน ให้ได้พบปะกับญาติพี่น้อง โดยมีผู้แจ้งความประสงค์ล่วงหน้า จำนวน 800 คน จะเข้าเยี่ยมได้ตามวันและเวลาที่แจ้งไว้เท่านั้น
โดยนักโทษแต่ละคนจะมีสิทธิให้ญาติเข้าเยี่ยมได้เพียง 1 ครั้ง แต่หลังจากนี้ ตนกำลังพิจารณาอยู่ว่าจะมอบโอกาสพิเศษให้แก่นักโทษที่ประพฤติตัวดี ให้มีโอกาสเจอกับครอบครัวบ่อยครั้งขึ้น อาจจะจัดอีกครั้งในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ซึ่งจะต้องทำความเข้าใจ และขอความร่วมมือจากนักโทษไม่ให้กระทำผิดวินัย จึงจะได้รับโอกาสนี้ได้ เพื่อเป็นการให้กำลังใจให้แก่นักโทษ โดยเฉพาะบางคนซึ่งกระทำผิดแบบไม่ได้ตั้งใจ
ด้านนายจารุชัย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ผู้ต้องขังคดีค้ายาเสพติด เป็นตัวแทนของผู้ต้องขังทั้งหมด กล่าวเปิดใจต่อสื่อมวลชนว่า ตนรู้สึกซาบซึ้งใจที่ทางเรือนจำ จ.ตรัง ได้จัดกิจกรรมนี้ขึ้น เพราะโอกาสที่จะได้เจอครอบครัว ได้อุ้มลูกอุ้มหลานไม่ได้มีบ่อยครั้งนัก ตนอยู่ในเรือนจำมา 5 ปี ไม่เคยมีกิจกรรมแบบนี้เลย ครั้งนี้เป็นครั้งแรกจึงอยากขอบคุณผู้ที่เกี่ยวข้องที่ได้ให้โอกาสให้พวกตนได้พบกับครอบครัว
นายจารุชัย ยังกล่าวเตือนไปยังผู้ที่คิดจะกระทำความผิดว่า ตนไม่อยากให้ใครต้องเข้ามาอยู่ในเรือนจำเหมือนตนอีก ขอให้ผู้ที่กำลังกระทำความผิด หรือคิดจะกระทำความผิดให้กลับตัวกลับใจเสียตั้งแต่ตอนนี้จะดีกว่า อยู่กับครอบครัวที่รัก มีความสุขมากกว่า แม้ว่าในเรือนจำจะมีผู้คุมดูแลอย่างดี แต่ถูกจำกัดสิทธิเสรีภาพ ไม่คุ้มค่ากันเลย และหากได้รับโอกาสพ้นโทษไป ตนยึดมั่นแน่นอนว่า จะไม่กลับมาทางสายนี้อีก