นครศรีธรรมราช - ผู้ต้องหาคดียิง “น้องโอม” ลูกชายเจ้าของธุรกิจรีสอร์ตชื่อดัง จ.นครศรีธรรมราช เสียชีวิต ยังคงหลบหนีอีก 2 คน หลังวันนี้ตำรวจ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช จับกุมมือปืนได้เพิ่มอีก 1 คน โดยให้การซัดทอดว่าเพื่อนที่ยังหลบหนีเป็นคนยิงซ้ำจนเสียชีวิต
วันนี้ (26 ม.ค.) พ.ต.ท.สุทัศน์ สงสยม รอง ผกก.สส.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจงานสืบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช คุมตัว นายเฉลิมพร หรือแนน แสงสง่า อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1792/88 ต.ท่าวัง อ.เมืองนครศรีธรรมราช มาสอบสวนเพิ่มเติม
โดย นายเฉลิมพร หรือแนน แสงสง่า เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ในข้อหาร่วมกันฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่น โดยมีผู้เสียหายคือ นายธีศิษฐ์ ถาวระ หรือโอม ลูกชายเจ้าของธุรกิจรีสอร์ตชื่อดังถูกยิงเสียชีวิต และ จ.ส.อ.ภานุวัฒน์ คงมีศรี ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเมื่อวันที่ 12 มกราคม ที่ผ่านมา จนเป็นข่าวโด่งดัง และสังคมให้ความสนใจอย่างมาก โดยเฉพาะนายธีศิษฐ์ ถือเป็นนักธุรกิจด้านการท่องเที่ยวรุ่นใหม่ของจังหวัดนครศรีธรรมราช และกำลังมีเส้นทางที่เติบโตอย่างน่าสนใจ
สำหรับ นายเฉลิมพร ผู้ต้องหารายล่าสุดถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 26 ม.ค.ในขณะหลบหนีไปกบดานอยู่ในบ้านเช่า ภายในซอยกอบสุข ถ.พัฒนาการคูขวาง ต.คลัง อ.เมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งหลังจากเจ้าหน้าที่บันทึกปากคำในเบื้องต้น นายเฉลิมพร ให้การรับสารภาพ โดยระบุว่า ในช่วงเกิดเหตุนั้นคู่กรณีได้เดินไปเอาอาวุธปืนที่รถ และกลับมาหาก่อนที่จะเกิดดวลปืนกันขึ้น โดยได้ยิงตอบโต้กันทำให้ นายธีศิษฐ์ เสียชีวิต ส่วนเพื่อนนั้นบาดเจ็บ ขณะที่ฝ่ายตนเองไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ หลังเกิดเหตุต่างแยกย้ายกันหลบหนีจนถูกจับกุมได้ในที่สุด
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีสังหาร นายธีศิษฐ์ ประกอบด้วย นายสิทธิพร ขาวสุก หรือ “โบตัส” อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1796/67 ถ.ท่าโพธิ์ ต.ท่าวัง อ.เมืองนครศรีธรรมราช นายพฤหัส แก้วสวาท อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 129/8 ต.ท่าวัง อ.เมืองนครศรีธรรมราช นายนิยม จิตรผดุง อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1792/19 ถ.ท่าโพธิ์ ต.ท่าวัง อ.เมืองนครศรีธรรมราช และนายจุลจักร โสมพงศ์ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1792/16 ถ.ท่าโพธิ์ ต.ท่าวัง อ.เมืองนครศรีธรรมราช
โดยทั้งหมดให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา แต่ยังให้การเป็นประโยชน์ต่อเจ้าหน้าที่ ขณะที่ นายสิทธิพร หรือ “โบตัส” หัวหน้าทีมนั้นมีหมายจับออกมาก่อนหน้านี้แล้ว ได้ให้การต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ในคืนเกิดเหตุตนได้พาพรรคพวกมีทั้งหญิง และชายกว่า 10 คน ไปรับประทานอาหารในจุดเกิดเหตุ ขณะที่ตนยืนคุยกับสาวที่มาด้วยกัน จ.ส.อ.ภานุวัฒน์ ทหารที่มากับ นายธีศิษฏ์ ก็มาพูดแซว ตนเองจึงเข้าไปพูดคุยแต่ก็ไม่มีอะไรกัน หลังจากนั้น ก็พาหญิงสาวที่ไปด้วยกันไปขึ้นรถ ปรากฏว่า ขณะตนขึ้นไปนั่งบนรถสาวที่มาด้วยกันบอกว่า “พี่ๆ เขาชักปืนจะยิงกันแล้ว”
จากนั้นตนก็จะลงไปเพื่อจะเคลียร์ปัญหาบอกให้เพื่อนอย่าทะเลาะกับฝ่ายผู้ตาย พอลงไปตนก็ได้ตะโกนบอกว่า อย่าทะเลาะกัน เป็นช่วงที่ทั้ง 2 ฝ่ายชักปืนยิงกันแล้ว โดยนายเนส กับนายแนน เพื่อนในกลุ่มเป็นคนยิงใส่ฝ่ายผู้ตายก่อน จากนั้นเพื่อนอีกคนชื่อนายหวี ก็ไปแย่งปืนจากนนายแนน เข้าไปยิงซ้ำจนเสียชีวิต จากนั้นก็พากันหลบหนี ซึ่งตอนแรกไม่กล้ามามอบตัวเพราะได้ข่าวมาว่า ฝ่ายผู้ตายจะจ้างมือปืนยิงพวกตน แต่เมื่อทางผู้ใหญ่บอกว่าไม่มีปัญหาจึงมามอบตัวเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ว่า ตนและเพื่อนทั้ง 4 คน ไม่เกี่ยวข้องต่อเหตุที่เกิดขึ้น เพียงแต่อยู่ในเหตุการณ์เท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นทั้ง 2 ฝ่ายไม่เคยมีเรื่องโกรธแค้นกันมาก่อน แต่มาทะเลาะกันจนมีการก่อเหตุยิงถล่มกัน และมีผู้เสียชีวิตดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตาม หลังเกิดคดีทางเจ้าหน้าที่ได้ขอหมายศาลออกหมายจับผู้ต้องหา 4 คน คือ นายชัยวิชิต หรือเนส แสงสง่า อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1792/88 ถ.ท่าโพธิ์ ต.ท่าวัง อ.เมือง นายสิทธิพร หรือโบตัส ขาวสุก (มอบตัว) อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1769/67 ถ.ท่าโพธิ์ ต.ท่าวัง อ.เมือง นายกิตติ หรือหวี ปานเดโช อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2102 ต.ราษฎร์บำรุง ต.ท่าวัง อ.เมือง และนายเฉลิมพร หรือแนน แสงสง่า อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1792/88 ถ.ท่าโพธิ์ ต.ท่าวัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
โดยหลังจากตำรวจจับกุมนายเฉลิมพร หรือแนน แสงสง่า ได้ในวันนี้ ทำให้คดีนี้มีผู้ต้องหาตามหมายจับที่ยังคงหลบหนีการจับกุมอีก 2 คน คือ นายชัยวิชิต หรือเนส แสงสง่า อายุ 20 ปี และนายกิตติ หรือหวี ปานเดโช อายุ 28 ปี ที่ถูกให้การซัดทอดว่าเป็นผู้ที่กระหน่ำยิงนายธีศิษฐ์ ซ้ำจนถึงแก่ความตาย
