พระนครศรีอยุธยา - กลุ่มวัยรุ่นอยุธยาที่ยกพวกยิงถล่มอริกลางเมืองพร้อมสาดกระสุนขึ้นฟ้าเกือบ 60 นัดอย่างป่าเถื่อน เข้ามอบตัวต่อตำรวจแล้ว 4 ราย เหลืออีก 2 ยังหลบหนี ขณะที่ผู้เป็นแม่ร่ำไห้แทบขาดใจเมื่อเห็นลูกไปสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น พร้อมฝากขอโทษสังคมในสิ่งที่ลูกทำลงไป
จากกรณีกลุ่มวัยรุ่นหลายรายบุกเข้าไปในร้านอาหารคอฟฟี่เฮ้าส์ ริมถนนนเรศวร ต.ประตูชัย อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ก่อนจะชักปืนยิง นายจตุพล พันธ์จันทร์ อายุ 26 ปี จนได้รับบาดเจ็บ ทั้งยังยิงปืนขึ้นฟ้าหลายนัดอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย ท่ามกลางความตื่นตกใจกลัวของประชาชนที่มาใช้บริการในร้าน โดยตำรวจสามารถเก็บปลอกกระสุนได้ถึง 59 นัด จนเป็นที่มาของการออกหมายจับผู้ต้องหา 7 ราย ซึ่งต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุม นายกิติชัย หรือเบ็น พรหมาด อายุ 22 ปีที่อยู่ในกลุ่มไว้ได้ โดยเจ้าตัวอ้างว่าแค่ติดตาม นายสนธยา วงษ์เอี่ยม ฉายา “ต้อมหัวโต” อายุ 27 ปี ไปด้วยเท่านั้น ไม่ได้ทำร้ายคู่อริ รวมทั้งยิงปืนด้วย
ต่อมา วันนี้ (7 ม.ค.) ที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา นายสนธยา วงษ์เอี่ยม อายุ 27 ปี นายภูเบศ กนกนาค อายุ 27 ปี นายคุณากร กนกนาค อายุ 23 ปี และนายชัยพร กนกนาค อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาอีก 4 รายที่ถูกออกหมายจับได้เดินทางเข้ามอบตัวต่อ พล.ต.ต.เสริมคิด สิทธิชัยกานต์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) พระนครศรีอยุธยา เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา
โดย นายสนธยา ให้การรับสารภาพว่า เคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับกลุ่มผู้บาดเจ็บมาก่อนจนถึงขั้นยิงปืนข่มขู่กัน ซึ่งวันเกิดเหตุมีการโทรศัพท์นัดมาเคลียร์ปัญหากัน เมื่อมาถึงได้เกิดการโต้เถียงชกต่อยกันขึ้นก่อนลุกลามไปถึงใช้อาวุธปืนยิง ตอนนี้รู้สึกผิดต่อการกระทำของตัวเองจึงได้เข้ามามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ด้าน นางสุวารี กนกนาค อายุ 52 ปี แม่ของนายสนธยา กล่าวทั้งน้ำตาว่า อยากให้ลูกรับรู้ว่าหัวอกคนเป็นแม่มันทรมานแค่ไหนเมื่อเห็นลูกออกไปสร้างความเดือดร้อนให้แก่คนอื่น ทำลายทั้งตัวเอง ทำลายทั้งครอบครัว แถมยังชื่อเสียงของจังหวัดอีก ทุกคืนเวลานอนไม่เคยหลับสนิทสักครั้ง ตนอยากขอโทษต่อสังคมในสิ่งที่ลูกได้ทำลงไปด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้รวมผู้ต้องหาเข้ามอบตัวแล้ว 5 ราย ยังเหลืออีก 2 รายที่ยังไม่ได้เข้ามามอบตัว คือ นายมงคล แย้มเกษสุคนธ์ อายุ 21 ปี และนายธนวัฒน์ กุลเทพบัณฑิตย์ อายุ 19 ปี
