ชุมพร - มือปืนโหดบุกรัวยิงใส่เจ้าของร้ายขายของชำผัวดับคาที่ ส่วนเมียบาดเจ็บวิ่งหนีถูกยิงกลางหลัง 2 นัด อาการสาหัส เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าจะเกิดจากปมที่ลูกชายไปมีเรื่องกับนักเลงขาใหญ่ในหมู่บ้าน
วานนี้ (23 ม.ค.) เมื่อเวลา 21.30 น. ร.ต.ท.สนธยา ไทยประดิษฐ์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร ได้รับแจ้งเหตุยิงกันตาย และมีผู้บาดเจ็บที่บ้านเลขที่ 72/14 หมู่ 8 ต.ตากแดด อ.เมือง จ.ชุมพร จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ภคพล ทวิชศรี ผกก.สภ.เมืองชุมพร พ.ต.ท.วิชิต ขำคชกรรณ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.วัชร เผือกจันทร์ สวป.แพทย์เวร โรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ และหน่วยกู้ภัยสายชลมูลนิธิชุมพร
ที่เกิดเหตุอยู่ริมถนนจรูญราษฎร์ เขตเทศบาลเมืองชุมพร เป็นบ้านชั้นเดียว 2 คูหา เปิดเป็นร้านขายของชำ ส่วนข้างๆ เป็นห้องแถวให้เช่า 4 ห้อง เจ้าหน้าที่ตรวจสอบภายในร้านพบศพทราบชื่อคือ นายเชิดฉันฑ์ ชุมพาลี อายุ 55 ปี เจ้าของร้าน และห้องแถวให้เช่าดังกล่าว สภาพศพนุ่งกางเกงกีฬาสีดำขาสั้นแถบขาว สวมเสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีเทา นอนหงายอยู่บนเตียงหวาย มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 มม. เข้าที่คอด้านซ้าย 2 นัด โหนกแก้มซ้าย 1 นัด และใต้รักแร้ซ้าย 1 นัด และมีผู้บาดเจ็บ 1 ราย ทราบชื่อคือ นางสุนี ชุมพาลี อายุ 45 ปี ภรรยาผู้ตาย ถูกยิงกลางหลัง 2 นัด ด้วยอาวุธขนาดเดียวกันบาดเจ็บอาการสาหัส หน่วยกู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์
จากการสอบสวนทราบว่า นายเชิดฉันฑ์ ผู้ตาย และนางสุนีภรรยา เป็นเจ้าของร้านขายของชำและบ้านเช่าอีกหลายคูหาในละแวกดังกล่าว เป็นคนมีฐานะดี ขณะเกิดเหตุทั้ง 2 คน นั่งอยู่บนโต๊ะหวาย และดูโทรทัศน์อยู่ภายในร้าน ได้มีคนร้ายเป็นชายฉกรรจ์ทำทีเข้ามาซื้อสินค้า จากนั้นได้ชักอาวุธปืนออกมาจ่อยิงรัวใส่ นายเชิดฉันฑ์ 4 นัดซ้อน ส่วนนางสุนี ภรรยาได้ลุกขึ้นวิ่งหนีเข้าไปในบ้าน คนร้ายได้ยิงใส่กลางหลังไป 2 นัด จนล้มฟุบบาดเจ็บสาหัส ส่วนคนร้ายได้วิ่งหลบหนีไปกับความมืด
ส่วนสาเหตุเบื้องต้นทราบว่า ผู้ตายซึ่งเป็นคนพูดจาโพงผาง และลูกชายของนายเชิดฉันฑ์ เคยมีเรื่องกับนักเลงขาใหญ่ในหมู่บ้านคนหนึ่ง ต่อมา ได้มีคนร้ายได้บุกยิงบ้านลูกชายของผู้ตายที่แยกครอบครัวไปเปิดร้านขายของชำอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุราว 700 เมตร เพื่อข่มขู่มาแล้ว จนกระทั่งนายเชิดฉันฑ์ ผู้เป็นพ่อมาถูกคนร้ายบุกยิงตายค้าร้านขายของชำ ส่วนภรรยาบาดเจ็บสาหัส ซึ่งตำรวจจะสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้งเพื่อติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
