ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้ว่าฯ ภูเก็ต เผยกรมที่ดินชี้ชัดอำนาจบริหารจัดการชายหาดเป็นของท้องถิ่นที่จะต้องจัดระเบียบในการปักร่มให้ชาวบ้านได้ทำกินที่ไม่มีการยึด และครอบครองชายหาดโดยเด็ดขาด ด้านนายกเล็กเมืองป่าตอง ระบุจัดแล้ว 3 โซน ให้ปักร่ม นวด แต่ก็ยังมีคนฝ่าฝืนปักนอกพื้นที่พิเศษ และนำเตียงไปให้บริการ ขณะที่จังหวัดประชุมสรุปแนวทางอีกรอบปลายเดือนมกราคมนี้
นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยถึงความคืบหน้าการจัดระเบียบชายหาดภายหลังจากที่จังหวัดภูเก็ตได้เข้าไปจัดระเบียบชายหาดทุกๆ หาด ตามนโยบายของ คสช.ในการรื้อร่ม เตียง ชายหาดออกทั้งหมด รวมไปถึงนวดชายหาด และอาชีพหิ้วกระติกขายของ ทำให้ผู้ประกอบการได้รับความเดือดร้อนมาเป็นเวลา 6 เดือนแล้ว ในการประชุมวาระยามเช้า นายกอปท.พบผู้ว่าฯ ณ โรงแรมเพิร์ล ภูเก็ต โดยมีผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าร่วม เมื่อเวลา 08.30 น.วันนี้ (22 ม.ค.) ว่า
ขณะนี้กรมที่ดินได้ยืนยันมาแล้วว่า ชายหาดเป็นที่สาธารณะ เป็นอำนาจของท้องถิ่นในการบริหารจัดการโดยไม่มีใครสามารถเข้าไปครอบครองได้ ซึ่งในส่วนของการแก้ไขปัญหาชายหาดนั้น ทางจังหวัดภูเก็ต ได้กำหนดเป็นแนวทางที่ชัดเจนแล้วว่าจะต้องดำเนินการในพื้นที่พิเศษที่กำหนดให้เท่านั้น ในสัดส่วน 10% ของชายหาดทั้งหมด ผู้ประกอบการ หรือใครก็ตามไม่สามารถยึดครองชายหาดเป็นที่ส่วนตัวได้ และจังหวัดอนุญาตให้เฉพาะในส่วนของการปักร่ม บริการนวด หิ้วกระติกขายของเท่านั้น ไม่อนุญาตให้ผู้ประกอบการนำร่มไปปักนอกเขตพื้นที่ที่กำหนดโดยเด็ดขาด ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย และสวยงาม รวมทั้งในการปักร่มชายหาดนั้นจะต้องไม่เป็นการครอบครองพื้นที่ชายหาดโดยเด็ดขาด หากผู้ประกอบการรายใดฝ่าฝืนไม่ดำเนินการตามที่กำหนด ก็จะต้องถูกออกจากระบบทันที และที่สำคัญทางจังหวัดไม่อนุญาตให้นำเตียงไปวางให้บริการบนชายหาดอย่างเด็ดขาด
“จังหวัดไม่ได้เปิดหาดให้ผู้มีอิทธิพลเข้าไปครอบครอง แต่เปิดหาดให้คนไทย และนักท่องเที่ยวทุกคนได้เข้าถึงชายหาดได้โดยไม่ผิดกฎหมาย ตำรวจบอกการดำเนินการดังกล่าวหมิ่นเหม่ที่จะผิดกฎหมาย แต่ผมสามารถดำเนินการได้เพราะตามกฎหมายที่ดินมาตรา 9 กรมที่ดินมอบหมายให้ผู้ว่าฯ ดูแลที่สาธารณะ และผู้ว่าฯ ก็ได้มอบหมายการดูแลต่อให้แก่ทางอำเภอ และท้องถิ่นดำเนินการ” นายนิสิต กล่าวและว่า
หากผู้ประกอบการายใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรการที่วางไว้ เช่น ปักร่มในที่อยู่นอกเหนือจากพื้นที่พิเศษ เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุม และดำเนินคดีได้ทันที เพราะถือว่าผู้ประกอบการไม่ปฏิบัติตามกฎกติกาที่กำหนด
ด้าน นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ขณะนี้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งได้ดำเนินการในวางมาตรการ และวางแผนงานในการให้ผู้ประกอบการลงไปประกอบอาชีพบนชายหาดแล้ว ซึ่งแผนงานทั้งหมดเป็นไปตามนโยบายของทางจังหวัดภูเก็ต ที่จะไม่ให้มีการครอบครองหาดโดยเด็ดขาด และร่มที่ปักชายหาดนั้นจะต้องอยู่ในกรอบของพื้นที่ที่กำหนดให้เท่านั้น โดยในช่วงปลายเดือนมกราคมนี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่ของจังหวัดภูเก็ตอีกครั้งหนึ่งว่าเห็นด้วยต่อแผนงาน และแนวทางปฏิบัติที่แต่ละท้องถิ่นเสนอมาหรือไม่ เมื่อเห็นด้วยแล้วทางท้องถิ่นก็จะได้ดำเนินการให้ผู้ประกอบการได้ประกอบอาชีพต่อไป
ด้าน น.ส.เฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง จ.ภูเก็ต กล่าวว่า เทศบาลเมืองป่าตองได้ดำเนินการจัดระเบียบชายหาดตามนโยบายของจังหวัดมาโดยตลอด เริ่มตั้งแต่ประชุมในระดับอำเภอ และจังหวัด แต่หลังจากที่ผู้ว่าฯ ได้ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประกาศออกมาว่าจะให้ปักร่มชายหาดได้ในพื้นที่ที่กำหนด ซึ่งในการประชุมวันนั้นผู้ประกอบการเข้าร่วมด้วย หลังประชุมเสร็จผู้ประกอบการก็ลงไปให้บริการชายหาดเต็มพื้นที่ทันที่ ซึ่งจุดนี้เทศบาลก็ไม่รู้จะดำเนินการอย่างไรเช่นกัน เทศบาลจึงได้เชิญรองผู้ว่าฯ ที่รับผิดชอบมาหารือร่วมกัน และกำหนดแนวทางการปักร่มได้ 10% ของพื้นที่ พร้อมทั้งตั้งเต็นท์ให้บริการเช่าร่ม ผ้า และอื่นๆ ในพื้นที่ที่ไม่ใช่ชายหาด โดยขณะนี้ได้กำหนดพื้นที่พิเศษเพื่อให้ผู้ประกอบการได้ประกอบอาชีพ 3 จุด คือ ที่บริเวณหน้าหาดตรงกับโรงแรมฮอลิเดย์ จุดโรงแรมบ้านไทย ป่าตองบีช และจุดหน้าโรงแรมแกรซแลนด์ โดยผู้ประกอบการจะเป็นคนบริหารจัดการกันเองในเรื่องการให้บริการ
อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีผู้ประกอบการที่ฝ่าฝืนนำร่ม และเตียงไปปัก และวางในจุดนอกพื้นที่พิเศษ ซึ่งในจุดนี้ทางเทศกิจของเทศบาลจะเข้าไปจับกุมในช่วงเช้า และเย็นที่เขาขนร่ม และเตียง แต่จะไม่จับในช่วงที่มีนักท่องเที่ยวใช้บริการ เพราะจะทำให้เสียบรรยากาศการท่องเที่ยว เพราะนโยบายของจังหวัดชัดเจนว่า จะไม่อนุญาตให้มีเตียงโดยเด็ดขาด มีได้เฉพาะร่มเท่านั้น และต้องอยู่ในพื้นที่พิเศษที่กำหนดเท่านั้น ซึ่งทางเทศบาลได้ยึดถือแนวทางของจังหวัดในการดำเนินการทุกอย่าง เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถประกอบอาชีพได้