ชาวชุมพรเจอช้างป่าบุกรุกทำลายพืชผล ทรัพย์สินเสียหายวอนเจ้าหน้าที่ช่วย

ชุมพร - ชาวสวนยางผงะเจอโขลงช้างป่าบุกหากินอยู่หลังบ้านกลางดึก โทร.แจ้งเจ้าหน้าที่ไปขับไล่ ผวาโดนมาแล้วถึง 3 ครั้ง ความเสียหายขยายเป็นวงกว้าง 4 ตำบลแล้ว ขณะที่กำลังเจ้าหน้าที่มีแค่ 6 นาย

เมื่อเวลา 01.00 น.วันนี้ (19 ม.ค.) นายโสพล เครือสาย หน.หน่วยพิทักษ์ป่าคลองจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าควนแม่ยายหม่น อ.หลังสวน จ.ชุมพร ได้รับแจ้งจากชาวบ้านหมู่ 6 ต.วังตะกอ อ.หลังสวน จ.ชุมพร ว่า มีโขลงช้างป่าลงมากินทำลายพืชผลทางการเกษตรบริเวณหลังบ้าน กลัวว่าจะได้รับอันตรายขอให้นำกำลังไปขับไล่โขลงช้างป่าด้วย จึงสนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่สวนป่าหลังสวน จำนวน 6 นาย รุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุบริเวณหลังบ้านของ นายเจียรนัย ยังพลขันธ์ อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30 หมู่ 6 ต.วังตะกอ อ.หลังสวน จ.ชุมพร เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงพบว่า นายเจียรนัย พร้อมด้วยภรรยา และลูกสาวอยู่ในอาการตกใจ ได้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ว่า มีโขลงช้างป่าจำนวนหลายตัวลงจากเขากินพืชผลทางการเกษตรในสวนหลังบ้านของตน และกลัวว่าจะเข้ามาที่บริเวณบ้านทำลายทรัพย์เหมือนครั้งก่อนๆ ที่เคยประสบมาแล้ว เมื่อเจ้าหน้าที่นำกำลังไปดูโขลงช้างดังกล่าวปรากฏว่า โขลงช้างได้หายไปแล้ว

นายเจียรนัย ยังพลขันธ์ กล่าวว่า ช้างป่าโขลงดังกล่าวได้เคยเข้าบ้านตนมาแล้ว 3 ครั้ง ครั้งล่าสุดเมื่อประมาณ 10 วันที่ผ่านมา และก่อนหน้านี้ ช้างโขลงดังกล่าวเคยมาเดินเวียนรอบบ้านของตนและเหยียบฝาส้วมจนแตก อีกทั้งยังใช้งวงดันรถจักรยานยนต์เล่นจนเสียหาย จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ช่วยเร่งผลักดันช้างโขลงดังกล่าวกลับสู่ป่าโดยเร็ว เพราะทุกวันนี้ครอบครัวของตนไม่กล้าที่จะออกไปกรีดยางเพราะกลัวช้างจะทำร้าย

หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ได้นำกำลังออกไปเฝ้าระวัง แต่เนื่องจากเป็นช่วงกลางดึกจึงไม่สามารถทำอะไรได้มาก อีกทั้งกำลังเจ้าหน้าที่มีเพียงแค่ 6 นาย จากการสอบถามชาวบ้านในพื้นที่หลายครอบครัวต้องหันมากรีดยางพาราช่วงเย็นแทน เพราะไม่กล้ากรีดยางช่วงเวลาตี 2 หรือ ตี 3 เนื่องจากกลัวช้างป่าโขลงดังกล่าว แต่ก็ได้น้ำยางไม่ดีนัก

ด้าน นายโสภณ เครือสาย หน.หน่วยพิทักษ์ป่าคลองจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าควนแม่ยายหม่น อ.หลังสวน จ.ชุมพร กล่าวว่า ที่ผ่านมา ช้างโขลงดังกล่าวได้ทำความเสียหายให้แก่พืชผลทางการเกษตรของชาวบ้านใน 4 ตำบล คือ ตำบลหาดยาย ตำบลนาขา ตำบลวังตะกอ และตำบลทุ่งตะโก มี 8 หมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบ และมีเกษตรกรที่ได้รับความเสียหาย จำนวน 50 ราย และที่ยังไม่มาแจ้งต่อเจ้าหน้าที่อีกจำนวนหนึ่ง พื้นที่เสียหายส่วนใหญ่เป็นสวนกล้วย สวนทุเรียน สวนปาล์ม และสวนยาง ตามลำดับ และยังมีท่อส่งน้ำที่ใช้ในสวนทุเรียนอีกจำนวนมาก ที่สำคัญคือ ชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่กล้าออกไปกรีดยางทำให้ขาดรายได้ ส่วนมาตรการที่ทำได้ในขณะนี้คือ แนะนำให้ชาวบ้านก่อกองไฟไว้ทุกบ้านหากช้างเข้ามาในบ้านก็ให้โทร.แจ้งเจ้าหน้าที่ ส่วนการผลักดันช้างในตอนนี้คงไม่สามารถทำได้เพราะกำลังเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ และขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการประสานงาน และรอคำสั่งจากต้นสังกัดอยู่