ชุมพร - ช้างป่ายังบุกอาละวาดกัดกินพืชผลทางการเกษตรเสียหายหนักอย่างต่อเนื่อง ขณะที่กำลังเจ้าหน้าที่ป่ามีน้อย วอนเร่งจัดการโดยเร็ว ก่อนเกิดศึกระหว่างคนกับช้าง
จากกรณีชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 13 ต.วังตะกอ อ.หลังสวน จ.ชุมพร ได้รับความเดือดร้อนจากโขลงช้างป่าออกอาละวาดลงมากินพืชผลทางการเกษตรของชาวบ้านได้รับความเสียหาย จนชาวบ้านไม่กล้าออกไปกรีดยางพารา เนื่องจากเกรงว่าช้างป่าจะทำร้ายชาวบ้านจึงอยู่อย่างผวา จนกระทั่งมีเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ชพ.5 (หลังสวน) เจ้าหน้าที่สวนป่าหลังสวน และหน่วยพิทักษ์ป่าคลองจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าควนแม่ยายหม่น ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายแต่ก็ยังไม่สามารถดำเนินการแก้ไขความเดือดร้อนให้ชาวบ้านได้ เพราะขาดกำลังเจ้าหน้าที่ที่มีจำนวนน้อย อยู่ระหว่างการขอกำลังจากหน่วยเหนือทำให้เกิดความล่าช้า
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (18 ม.ค.) นายสุนทร ทาเดช อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38 หมู่ 6 ต.วังตะกอ อ.หลังสวน จ.ชุมพร พร้อมด้วยชาวบ้านนำผู้สื่อข่าวลงไปดูความเสียหายที่ในสวนปาล์ม สวนทุเรียน สวนมะพร้าวซึ่งอยู่ในละแวกดังกล่าว หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมา โขลงช้างป่าได้ลงมากินต้นปาล์มอายุ 2 ปี เสียหายเกือบ 50 ต้น อีกทั้งยังทำลายสวนกล้วยน้ำว้า สวนมะพร้าว และหักกิ่งทุเรียนที่กำลังออกลูกอีกจำนวนหลายต้น ทำให้ชาวบ้านหลายรายได้รับความเสียหายรวมทั้งหมดเกือบ 30 ไร่
นายสุนทร ยังกล่าวอีกว่า ทุกวันนี้ราคายางพาราก็ตกต่ำอยู่แล้ว ช่วงนี้ยังกรีดยางพาราไม่ได้อีกทำให้ชาวบ้านต้องเดือดร้อนเพิ่มขึ้นมาอีก และที่สำคัญหากช้างทำร้ายชาวบ้านจนเสียชีวิตใครจะเป็นคนรับผิดชอบ เพราะที่ผ่านมา ปัญหาช้างลงมากิน และทำลายพืชผลทางการเกษตรของชาวบ้านเป็นปัญหาซ้ำซากมานานหลายปี แต่หน่วยราชการที่เกี่ยวข้องไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้ ปัจจุบัน โขลงช้างไม่ยอมกลับขึ้นเขาเนื่องจากช้างเห็นว่าพืชผลทางการเกษตรของชาวบ้านเป็นอาหารที่อุดมสมบูรณ์ของมัน จึงยังวนเวียนอยู่ไม่ไปไหน จึงขอวิงวอนหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องเร่งผลักดันช้างเข้าสู่ป่าโดยเร็ว ก่อนที่จะเกิดศึกระหว่างชาวบ้านกับช้างป่าขึ้น