ปัตตานี - ทหาร ตำรวจปัตตานี เข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวนวางเพลิงเผารถยนต์เก๋งกลางโรงรถในบ้าน เผยรถคันดังกล่าวเคยถูกกระหน่ำยิงมาแล้วครั้งหนึ่ง เจ้าหน้าที่คาดสาเหตุจากปัญหายาเสพติด เนื่องจากเจ้าของรถถูกคุมขังในเรือนจำคดียาเสพติดนานกว่า 1 อาทิตย์แล้ว
วันนี้ (16 ม.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. พ.ต.ท.มานิตย์ ปานทอง สารวัตรพิสูจน์หลักฐานจังหวัดปัตตานี พร้อมด้วยพนักงานสืบสวนและสอบสวน สภ.เมืองปัตตานี นำกำลังทหาร ตำรวจ เข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุวางเพลิงเผารถยนต์เก๋ง สีเขียวแก่ หมายเลขทะเบียน กย 2365 สงขลา ที่จอดภายในโรงรถ ที่บ้านเลขที่ 95/7 ม.3 บ้านกรือเซะ ต.ตันหยงลุโล๊ะ อ.เมือง เป็นเหตุให้รถยนต์ และโรงเก็บรถได้รับความเสียหายถูกไฟลุกไหม้ทั้งหมด เหลือเพียงเศษเหล็ก และสังกะสี
จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุไม่พบวัตถุพยานแต่อย่างใด เนื่องจากสภาพไหม้เกรียมทั้งหมดเพราะไม่มีใครมาช่วยดับ พบเพียงประตูรถข้างขวามีสภาพถูกเปิด และได้สอบถามญาติที่ดูแลรถกลับยืนยันว่า ประตูรถถูกล็อกไว้ทั้ง 4 บาน เจ้าหน้าที่จึงเชื่อได้ว่าเป็นการกระทำของคนร้ายเพื่อวางเพลิงภายในรถ จึงเก็บไว้ลายนิ้วแฝงเพื่อติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุรถยนต์เก๋งคันดังกล่าวเป็นของ นายสมาแอ แต อายุ 29 ปี ได้นำมาจอดไว้ภายในโรงเก็บรถบริเวณหน้าบ้าน หลังจากที่แก๊สเชื้อเพลิงหมดได้ประมาณ 2 อาทิตย์ ปัจจุบันเจ้าของรถถูกเจ้าหน้าที่จับกุมขังตัวที่เรือนจำกลางปัตตานี ในข้อหายาเสพติดประมาณ 1 อาทิตย์ โดยญาติพี่น้องจะเข้ามาดูแลทุกวัน
จนกระทั่งเมื่อเวลาประมาณตี 1 ของเมื่อคืน ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนเข้ามาลอบวางเพลิงจนได้รับความเสียหาย ซึ่งญาติเพิ่งมาเห็นเมื่อเวลาประมาณ 09.00 น.ของเช้าวันนี้ จึงรีบไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองทันที เนื่องจากก่อนหน้านี้รถคันดังกล่าวเคยถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อประมาณกลางปีที่แล้ว และเจ้าของรถได้ไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี แต่คดีกลับไม่คืบหน้า จนกระทั่งถูกวางเพลิงจนได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การลอบวางเพลิงในครั้งอาจเชื่อมโยงต่อคดีการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่ หลังจากที่ได้ทำหน้าที่เป็นสายให้แก่นายตำรวจสืบในท้องที่เมืองปัตตานี แต่กลับไปวางเครือข่ายค้ายาเสพติดเสียเอง และถูกจับเมื่อเร็วๆ นี้ จึงอาจเชื่อว่ามาจากการซัดทอดของผู้ต้องหายาเสพติดที่ถูกจับกุมหน้านี้จึงไม่พอใจ จึงเกิดการวางเพลิงในครั้งนี้
