ปัตตานี - รักษาราชการแทน ผบก.ภ.ปัตตานี เผยคดีเผา 2 อบต.คืบหน้า ตั้ง 4 ประเด็น ส่วนเผา ร.ร.ก็คืบหน้า หลังสอบพยานไปหลายปาก คุมตัวผู้ต้องสงสัยสอบปากคำ แม่ทัพภาค 4 ย้ำต้องสนธิกำลังดูแลหน่วยงานราชการทุกแห่ง
วันนี้ (30 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับความคืบหน้าเหตุลอบวางเพลิงที่ทำการ อบต.ดอนรัก และ อ.ปุโละปุโย อ.หนองจิก จนได้รับความเสียหายอย่างหนัก เหตุเกิดเมื่อวันที่ 28 ตค.ที่ผ่านมานั้น พ.ต.อ.กฤษกร พลีธัญญวงศ์ รักษาราชการแทน ผบก.ภ.จ.ปัตตานี เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ตั้งไว้หลายประเด็น คือ ความขัดแย้งภายใน เรื่องผลประโยชน์ การเมืองท้องถิ่น และการสร้างสถานการณ์ ซึ่งทุกประเด็นได้มีการสืบสวนสอบสวนทั้งหมด
ซึ่งต้องขอเวลาให้พนักงานสอบสวนดำเนินการสืบสวนต่อไป ล่าสุด ตนได้รับรายงานว่า มีการเรียกสอบปากคำพยานบุคคล รวมไปถึงผู้ที่อยู่ในข่ายหลายปากแล้ว โดยเฉพาะการสอบปากคำ รปภ.ของ อบต.ดอนรัก จำนวน 3 คน ที่ถูกจับมัดมือในคืนเกิดเหตุนั้นมีความคืบหน้าในทิศทางที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีอย่างมาก ขณะที่ชุดสืบสวนสอบสวนก็ได้ลงพื้นที่หาข่าว และข้อมูลเพื่อมาเป็นแนวทางการสอบสวน ส่วนวัตถุพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุถือเป็นหลักฐานสำคัญที่จะคลี่คลายคดีว่าจะเชื่อมโยงคดีใดบ้าง และใครอยู่ในข่ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้
ส่วนความคืบหน้าเหตุลอบวางเพลิงโรงเรียน 6 แห่งใน อ.ทุ่งยางแดง อ.มายอ เมื่อวันที่ 12 ต.ค.ที่ผ่านมานั้น ผู้ต้องสงสัยที่ถูกควบคุมตัว 6 คน ได้ให้การที่เป็นประโยชน์ และยังมีการเชิญผู้ต้องสงสัยที่ถูกซัดทอดทางเจ้าหน้าที่ก็ได้เรียกมาซักถามหลายราย ขณะนี้อยู่ในกระบวนการยุติธรรม คดีมีความคืบหน้ามาก ผู้ต้องสงสัยที่ถูกควบคุมตัวยังไม่ได้ออกหมายจับ แต่ได้มีการออกหมาย พ.ร.ก.เพื่อควบคุมตัวสอบสวนขยายผล คาดว่าไม่นานจะออกหมายจับหลายราย
พ.ต.อ.กฤษกร ยังกล่าวอีกว่า ทางแม่ทัพภาคที่ 4 เตรียมที่จะเรียกประชุมอีกครั้งทั้งทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง เพื่อต้องการคลี่คลายเหตุดังกล่าวให้ได้ผลในระดับหนึ่ง และมีขั้นตอนการปฏิบัติที่เหมาะสม ซึ่งก่อนหน้านี้ ทางแม่ทัพภาคที่ 4 ได้กำชับให้มีการจัดกำลังเวรยามสถานที่ราชการทุกแห่ง โดยการสนธิกำลังร่วมกันหลายฝ่าย พร้อมกันนี้ ให้มีการติดตั้งสัญญาณเตือนภัย กำหนดแผนซักซ้อมการรักษาความปลอดภัยให้เข้มขึ้นเพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการปฏิบัติ
วันนี้ (30 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับความคืบหน้าเหตุลอบวางเพลิงที่ทำการ อบต.ดอนรัก และ อ.ปุโละปุโย อ.หนองจิก จนได้รับความเสียหายอย่างหนัก เหตุเกิดเมื่อวันที่ 28 ตค.ที่ผ่านมานั้น พ.ต.อ.กฤษกร พลีธัญญวงศ์ รักษาราชการแทน ผบก.ภ.จ.ปัตตานี เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ตั้งไว้หลายประเด็น คือ ความขัดแย้งภายใน เรื่องผลประโยชน์ การเมืองท้องถิ่น และการสร้างสถานการณ์ ซึ่งทุกประเด็นได้มีการสืบสวนสอบสวนทั้งหมด
ซึ่งต้องขอเวลาให้พนักงานสอบสวนดำเนินการสืบสวนต่อไป ล่าสุด ตนได้รับรายงานว่า มีการเรียกสอบปากคำพยานบุคคล รวมไปถึงผู้ที่อยู่ในข่ายหลายปากแล้ว โดยเฉพาะการสอบปากคำ รปภ.ของ อบต.ดอนรัก จำนวน 3 คน ที่ถูกจับมัดมือในคืนเกิดเหตุนั้นมีความคืบหน้าในทิศทางที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีอย่างมาก ขณะที่ชุดสืบสวนสอบสวนก็ได้ลงพื้นที่หาข่าว และข้อมูลเพื่อมาเป็นแนวทางการสอบสวน ส่วนวัตถุพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุถือเป็นหลักฐานสำคัญที่จะคลี่คลายคดีว่าจะเชื่อมโยงคดีใดบ้าง และใครอยู่ในข่ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้
ส่วนความคืบหน้าเหตุลอบวางเพลิงโรงเรียน 6 แห่งใน อ.ทุ่งยางแดง อ.มายอ เมื่อวันที่ 12 ต.ค.ที่ผ่านมานั้น ผู้ต้องสงสัยที่ถูกควบคุมตัว 6 คน ได้ให้การที่เป็นประโยชน์ และยังมีการเชิญผู้ต้องสงสัยที่ถูกซัดทอดทางเจ้าหน้าที่ก็ได้เรียกมาซักถามหลายราย ขณะนี้อยู่ในกระบวนการยุติธรรม คดีมีความคืบหน้ามาก ผู้ต้องสงสัยที่ถูกควบคุมตัวยังไม่ได้ออกหมายจับ แต่ได้มีการออกหมาย พ.ร.ก.เพื่อควบคุมตัวสอบสวนขยายผล คาดว่าไม่นานจะออกหมายจับหลายราย
พ.ต.อ.กฤษกร ยังกล่าวอีกว่า ทางแม่ทัพภาคที่ 4 เตรียมที่จะเรียกประชุมอีกครั้งทั้งทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง เพื่อต้องการคลี่คลายเหตุดังกล่าวให้ได้ผลในระดับหนึ่ง และมีขั้นตอนการปฏิบัติที่เหมาะสม ซึ่งก่อนหน้านี้ ทางแม่ทัพภาคที่ 4 ได้กำชับให้มีการจัดกำลังเวรยามสถานที่ราชการทุกแห่ง โดยการสนธิกำลังร่วมกันหลายฝ่าย พร้อมกันนี้ ให้มีการติดตั้งสัญญาณเตือนภัย กำหนดแผนซักซ้อมการรักษาความปลอดภัยให้เข้มขึ้นเพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการปฏิบัติ