ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ช่างเครื่องยนต์เผยรถยนต์ที่เติมน้ำมันเถื่อนซึ่งมีราคาถูกเสี่ยงต่อการทำให้ระบบหัวฉีดเชื้อเพลิงพังเสียหาย เตือนผู้ใช้รถเลี่ยงการเติมน้ำมันเถื่อนแม้ราคาถูกกว่า เชื่อในระยะยาวอาจต้องรับภาระค่าซ่อมแซมมโหฬาร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (7 ม.ค.) สถานการณ์น้ำมันเถื่อนซึ่งยังคงมีการลักลอบนำเข้ามาจำหน่ายในพื้นที่ชายแดนของ จ.สงขลา อย่างต่อเนื่อง และเป็นที่นิยมของผู้ใช้รถทุกประเภทเนื่องจากมีราคาถูกกว่าน้ำมันของไทย ทั้งน้ำมันเบนซิน และดีเซล เฉลี่ยลิตรละเกือบ 2 บาท โดยเฉพาะขณะนี้ทางการมาเลเซียได้ลดราคาน้ำมันทุกประเภทลงอีกลิตรละ 5 บาท ทำให้มีการลักลอบขนน้ำมันเข้ามามากขึ้นเพราะมีส่วนต่างของกำไรลิตรละ 9-12 บาท
แต่การเติมน้ำมันเถื่อนเป็นประจำจะส่งผลเสียต่อเครื่องยนต์โดยตรง จากการตรวจสอบที่อู่รุ่งเรืองเซอร์วิส ใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งได้ซ่อมรถกระบะที่เครื่องยนต์เสียหายเพราะเติมน้ำมันเถื่อนเป็นประจำ พบว่า ระบบหัวฉีดพังเสียหายเนื่องจากมีการอุดตัน ขณะที่น้ำมันในถัง และในไส้กรองดีเซลมีสภาพสกปรกอย่างหนัก
นายวรเชษฐ์ โดนทิง เจ้าของอู่เปิดเผยว่า รถที่เติมน้ำมันเถื่อนเป็นประจำส่วนใหญ่ที่นำมาซ่อมจะมีปัญหาหัวฉีดพังเนื่องจากน้ำมันเถื่อนมีการปลอมปน แม้น้ำมันเถื่อนจะมีราคาถูกกว่าแต่ไม่คุ้มต่อเครื่องยนต์พัง และค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมที่ต้องจ่ายเป็นหลักหมื่น ทางที่ดีไม่ควรเติมน้ำมันเถื่อนอย่างเด็ดขาด ไม่ว่าจะเบนซิน หรือดีเซล วิธีสังเกตง่ายๆ ก่อนที่หัวฉีดจะพังเสียหายคือ รถจะมีควันสีดำเพราะระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงอุดตัน และจะปล่อยน้ำมันออกไปทีละมากๆ และเผาไหม้ไม่หมด ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาเครื่องยนต์โดยเฉพาะรถรุ่นใหม่ๆ หรือหากหนักกว่านี้ คือ วาล์วพังเสียหายจนกระทั่งเครื่องยนต์ไม่สามารถทำงานได้ในที่สุด
ด้านผู้ค้าน้ำมันรายหนึ่ง บอกว่า น้ำมันเถื่อนส่วนใหญ่ที่นำมาวางขายตามริมถนนจะมีการผสมสารโซเวนต์เข้าไปทำให้ได้กำไรมากขึ้น สังเกตได้ว่าน้ำมันเถื่อนที่วางขายแต่ละเจ้าสีของน้ำมันอ่อนแก่ไม่เท่ากัน ซึ่งหมายถึงการผสมสารโซเวนต์มากน้อยแค่ไหน ซึ่งหากผสมสารโซเวนต์มากก็จะยิ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อเครื่องยนต์
