ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ด่านศุลกากรพรมแดนไทย-มาเลเซียเพิ่มความเข้มงวดป้องกันการลักลอบขนน้ำมันเถื่อนจากประเทศมาเลเซียเข้ามาฝั่งไทย หลังจากที่ทางการมาเลเซียประกาศลดราคาน้ำมันทั้งดีเซล และเบนซินลงลิตรละ5 บาท ทำให้ราคาถูกกว่าน้ำมันของไทยลิตรละ 9-12 บาท และเป็นแรงจูงใจให้มีการลักลอบค้าน้ำมันเถื่อนมากขึ้น
วันนี้ (6 ม.ค.) เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรพรมแดนไทย-มาเลเซียใน จ.สงขลา ทั้ง 3 แห่ง ทั้งด่านพรมแดนสะเดา ด่านพรมแดนปาดังเบซาร์ อ.สะเดา และด่านพรมแดนประกอบ อ.นาทวี เพิ่มมาตรการเข้มงวดในการตรวจสอบรถยนต์ที่เข้าออกพรมแดนไทย-มาเลเซีย ป้องกันไม่ให้มีการลักลอบขนน้ำมันเถื่อนจากชายแดนมาเลเซียเข้ามายังฝั่งไทย โดยเฉพาะรถที่มีการดัดแปลงและต่อเติมถังน้ำมันให้มีขนาดเพิ่มขึ้นตั้งแต่ 1,000-2,000 ลิตร
หลังจากที่ทางการมาเลเซียประกาศลดราคาน้ำมันทั้งดีเซล และเบนซินลงลิตร 5 บาท ตามราคาน้ำมันโลกที่ปรับตัวลดลง ส่งผลให้ราคาน้ำมันทั้งเบนซิน และดีเซลในประเทศมาเลเซียขณะนี้ลดลดจาก 22 บาท 30 สตางค์ เหลือเพียง 18 บาท 50 สตางค์ ขณะที่ราคาน้ำมันหน้าปั๊มใน จ.สงขลา ดีเซลลิตรละ 26 บาท 76 สตางค์ ต่างกัน 9 บาท ส่วนแก๊สโซฮอล์ 91 ราคา 28 บาท 15 สตางค์ แก๊สโซฮอล์ 95 ราคา 29 บาท 87 สตางค์ ต่างกันเกือบ 12 บาท
และจากส่วนต่างของราคาน้ำมันในมาเลเซียที่ถูกกว่าของไทยค่อนข้างมาก ทำให้กลุ่มผู้ค้าน้ำมันเถื่อนบริเวณชายแดนไทย-มาเลเซีย พยายามลักลอบเข้าไปขนน้ำมันเถื่อนจากมาเลเซียเข้ามาขายตามแนวพรมแดนไทย-มาเลเซียเพิ่มขึ้น เนื่องจากสามารถทำกำไรได้เป็นกอบเป็นกำในระยะนี้ และส่งผลกระทบโดยตรงต่อปั๊มน้ำมันของไทยที่ยอดขายลดลง
อย่างไรก็ตาม แม้เจ้าหน้าที่จะมีการเข้มงวดในการป้องกันการค้าน้ำมันเถื่อนแต่ยังผ่อนปรนให้แก่ประชาชนที่อยู่ตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย สามารถเข้าไปเติมน้ำมันในฝั่งมาเลเซียได้ แต่ต้องเป็นรถที่ไม่ดัดแปลงสภาพถังน้ำมันเพื่อไม่ให้กระทบต่อการค้าขาย และการใช้ชีวิตปกติของประชาชน