ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้ว่าฯ ภูเก็ต พร้อมเจ้าท่าฯ ตรวจความพร้อมด้านความปลอดภัยของท่าเรือโดยสารไปยังเกาะแก่งต่างๆ สั่งตรวจเข้มเรือโดยสาร และเรือท่องเที่ยวทุกลำก่อนออกจากท่าต้องปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดอย่างเคร่งครัด ด้านผู้ประกอบการโอดนักท่องเที่ยวทางเรือลดลงในช่วงปลายปีนี้ และคาดว่าจะต่อเนื่องไปจนถึงต้นปีหน้า จากเศรษฐกิจโลกซบเซา เพิ่งกระเตื้องในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ที่เพิ่มขึ้นจากปกติประมาณ 40% ในระยะสั้นๆ
เมื่อเวลา 08.00 น.วันนี้ (29 ธ.ค.) นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นายวิชัย คงขำ ผู้อำนวยการเจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิสุทธิ์ ผู้อำนวยการเจ้าท่า สาขาภูเก็ต นายจตุรงค์ แก้วกสิ นักวิชาการขนส่ง สำนักงานขนส่งจังหวัดภูเก็ต ตรวจความพร้อมและความปลอดภัยในการเดินทางท่องเที่ยวทางทะเลช่วงเทศกาลปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงนี้ ที่บริเวณท่าเทียบเรือรัษฎา ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต
โดยบรรยากาศบริเวณท่าเทียบเรือรัษฎา ซึ่งเป็นหนึ่งในท่าเรือท่องเที่ยวของภูเก็ตที่มีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการเดินทางไปท่องเที่ยวตามเกาะแก่งต่างๆ เป็นจำนวนมากให้แต่ละวัน ซึ่งวันนี้ก็เช่นเดียวกัน นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาใช้บริการเป็นจำนวนมาก ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตและคณะได้ตรวจความพร้อมบริเวณรอบๆ ท่าเรือ และลงไปตรวจสอบความพร้อมของตัวเรือที่จอดรอรับนักท่องเที่ยวอยู่บริเวณท่าเรือดังกล่าว
นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การตรวจความพร้อมของท่าเรือ และเรือโดยสารในครั้งนี้เพื่อเตรียมความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางท่องเที่ยวทางทะเลในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง ซึ่งคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเดินทางเข้ามาเป็นจำนวนมาก การดูแลความปลอดภัยทางน้ำนั้นเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมาก เพราะในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวใช้บริการท่าเรือต่างๆ ในภูเก็ตเดินทางท่องเที่ยวตามเกาะแก่ง ดำน้ำ เป็นจำนวนมาก โดยเมื่อปีที่แล้วมีสูงถึง 4 ล้านคน และเฉพาะในวันที่ 27 ธ.ค.ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวเดินทางท่องเที่ยวทางทะเลกว่า 10,000 คน เรือให้บริการ 315 เที่ยว
ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวที่เดินทางท่องเที่ยวทางทะเล ทางจังหวัดภูเก็ต รวมทั้งกรมเจ้าท่า และสำนักงานเจ้าท่า สาขาภูเก็ต ได้กำหนดมาตรการในการดูแลความปลอดภัยทางทะเล และได้กำชับให้ผู้ประกอบการปฏิบัติอย่างเคร่งครัด โดยเรือทุกลำจะออกจากท่าได้นั้นจะต้องมีความพร้อมในเรื่องของเสื้อชูชีพที่มีเพียงพอ หรือเกินจำนวนผู้โดยสาร ตั้งอยู่ในตำแหน่งที่สามารถหยิบใช้ได้ง่าย คนขับเรือจะต้องมีใบนายท้ายเรือ อุปกรณ์การสื่อสารพร้อม และอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ เพราะเท่าที่ทราบเรือที่ให้บริการเป็นเรือขนาดใหญ่สามารถจุผู้โดยสารได้ 300-400 คน และขณะนี้จากที่ได้พูดคุยกับผู้ประกอบการปรากฏว่า ผู้โดยสารเต็มลำทุกวันในช่วงใกล้ๆ ปีใหม่นี้ และที่สำคัญน้ำหนักจะต้องไม่เกินตามที่กำหนด
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ออกมาตรการมาแล้วนั้นสิ่งสำคัญอีกประการ คือ เจ้าหน้าที่จะต้องเคร่งครัดในการดูแลให้เรือดังกล่าวปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด และขณะนี้ทางจังหวัดภูเก็ตได้มีการติดตั้งระบบเรดาร์เพื่อดูตำแหน่งของเรือในน่านน้ำของภูเก็ต และอันดามัน รวมทั้งได้ขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการติดตั้งระบบ AIS เพื่อตรวจสอบตำแหน่งของเรือ ควบคุมความเร็ว หากเกิดอะไรขึ้นจะได้ให้การช่วยเหลืออย่างทันท่วงที รวมทั้งทาง ศร.ชล.ได้ดูแลความปลอดภัยทางน้ำตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้นักท่องเที่ยวเกิดความมั่นใจในการเดินทางท่องเที่ยวทางทะเล
นายนิสิต กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบในวันนี้พบว่าเรือทุกลำมีความปลอดภัย ไม่น่าเป็นห่วง แต่อยากจะให้มีการปรับปรุงในเรื่องของท่าเรือที่พบว่าไม่ค่อยจะสะอาด มีขยะจำนวนมาก ซึ่งเรื่องนี้จะได้ประสานขอความร่วมมือกับผู้ประกอบการ และ อบจ.ในการปรับปรุงท่าเรือรัษฎาให้สวยงามขึ้น
ด้านนายนิคม โอวาส กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีพี ครุยเซอร์ จำกัด ผู้ให้บริการเรือนำเที่ยวเส้นทางภูเก็ต-เกาะพีพี จ.กระบี่ เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้มีนักท่องเที่ยวใช้บริการเรือโดยสารเดินทางไปท่องเที่ยวทางทะเลตามเกาะแก่งต่างๆ จำนวนมาก โดยเพิ่มขึ้นจากช่วงปกติประมาณ 40% ส่วนใหญ่ที่ใช้บริการของพีพี ครุยเซอร์ จะไปท่องเที่ยวที่เกาะพีพีแบบวันเดย์ทริป คือ ไปเช้า-เย็นกลับ และผู้โดยสารที่ไปค้างที่เกาะพีพีเพื่อเดินทางต่อไปยังอ่าวนาง และ จ.กระบี่ โดยนักท่องเที่ยวเกือบทั้งหมดเป็นชาวต่างชาติ ทั้งจีน อินเดีย ยุโรป และรัสเซียที่ขณะนี้หายไปกว่า 60% จากปัญหาค่าเงินรัสเชียที่อ่อนค่าลง ทำให้นักท่องเที่ยวรัสเซียหายไปเป็นจำนวนมาก
นายนิคม ยังกล่าวถึงภาพรวมของนักท่องเที่ยวที่เดินทางท่องเที่ยวทางทะเลในต้นปีหน้า ว่า แนวโน้มนักท่องเที่ยวน่าจะที่จะลดลงจากสถานการณ์โดยรวมที่เป็นมาตั้งแต่ปลายปีนี้แล้วที่ไม่ค่อยคึกคักเท่าที่ควร เริ่มมาคึกคักเฉพาะในช่วงเทศกาลปีใหม่เท่านั้น ทั้งนี้ ปัญหาหลักน่าจะเนื่องมาจากเศรษฐกิจโลกที่ซบเซา ทำให้นักท่องเที่ยวชะลอการเดินทางท่องเที่ยว
