นครศรีธรรมราช - คลื่นทะเลซัดกระหน่ำชายฝั่ง จ.นครศรีฯ อย่างหนัก ซัดแนวกำแพงกั้นคลื่นแตก ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนหลายหลังได้รับความเสียหาย ขณะที่ร้ายสุดชาวบ้านชายฝั่งบางรายจ้างช่างมารื้อถอนบ้านเพื่อนำไปสร้างบ้านหลังใหม่
วันนี้ (17 ธ.ค.) ที่ จ.นครศรีธรรมราช ผู้สื่อข่าวรายงานสภาพของลมแรง และคลื่นสู่ตลอดชายฝั่งโดยเฉพาะเส้นทางระหว่างปากพนัง ในช่วงตำบลท่าพญา ตำบลขนาบนาค ของอำเภอปากพนัง ไปจนถึงอำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช หลายจุดอยู่ในสภาพถูกคลื่นสูงซัดเข้าฝั่งอย่างรุนแรง จนบ้านเรือนของประชาชนจำนวนมากในพื้นที่ต่างได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยบางหลังต้องทิ้งร้าง ขณะที่บางหลังต้องรื้อถอนอพยพไปปลูกสร้างยังที่ใหม่ และอีกหลายหลังยังคนทนอยู่ในสภาพที่คลื่นลมถล่มอย่างหนักเนื่องจากไม่มีที่อาศัยอื่น
ส่วนบริเวณถนนเลียบทะเล ช่วงบ้านหน้าโกฏิ ตำบลขนาบนาค คลื่นสูงกว่า 4 เมตรได้ซัดเข้าหาฝั่งที่มีแนวกำแพงกันคลื่นก่อนที่จะกระแทก และม้วนขึ้นไปในอากาศสูงกว่า 10 เมตร รถยนต์ที่ใช้เส้นทางนี้ต้องวิ่งฝ่าคลื่นที่ซัดเข้าฝั่งอยู่ตลอดเวลา ขณะที่กำแพงกั้นคลื่นคอนกรีตถูกคลื่นซัดจนพังยับเยิน โดยคลื่นที่มีความรุนแรงได้กัดเซาะชายฝั่งอย่างต่อเนื่อง โดยไม่สามารถแก้ไขใดๆ ได้ ทำให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมหาดต้องอพยพออกจากบ้านไปแล้วจำนวนมาก โดยบ้านเรือนหลายหลังถูกกลื่นกัดเซาะเสียหายกลายเป็นพื้นที่ทะเล ขณะที่อีกหลายหลังคลื่นได้กัดเซาะจนถึงแนวตัวบ้าน ซึ่งต่างพยายามหาที่อพยพไปสร้างบ้านเรือนใหม่
นางจินดา มากจริง อายุ 61 ปี ชาวหมู่ 7 ตำบลท่าพญา อำเภอปากพนัง ระบุว่า ต้องว่าจ้างช่างให้เข้ามารื้อถอนวัสดุก่อสร้างที่สามารถนำไปสร้างบ้านหลังใหม่ได้เพื่อลดค่าใช้จ่าย เช่น กระเบื้อง ไม้โครงสร้างหลังคา กรอบประตู หน้าต่าง นำไปใช้ได้ใหม่ ส่วนพื้นที่ดินที่เป็นมรดกตกทอดไม่สามารถแก้ไขอะไรได้แล้ว คงต้องปล่อยให้ทะเลกัดเซาะไปจนหมด เหลือไว้แค่เพียงโฉนดที่ดินที่ต้องเก็บไว้
เช่นเดียวกับบริเวณสะพานเทียบเรือบ้านหน้าศาล ตำบลหน้าสตน อำเภอปากพนัง คลื่นสูงกว่า 3 เมตร ได้ซัดชายฝั่งจนแนวกันคลื่นได้รับความเสียหายอย่างหนัก บ้านเรือนของประชาชนที่ตั้งอยู่ริมหาดต้องนำผ้าใบมาปิดกั้นน้ำทะเลที่ซัดสูงไปจนถึงหลังคาบ้าน และต่างเก็บสิ่งของปิดบ้านเรือนหลบไปอยู่ที่อื่นเนื่องจากเกรงอันตราย