ปัตตานี - สภาพอากาศใน จ.ปัตตานีตลอด 3 วันที่ผ่านมา ยังคงมีฝนตกหนัก ขณะนี้แม่น้ำหลัก 2 สายหวั่นล้นตลิ่ง ขณะนี้เรือประมงขนาดเล็กหยุดออกจากฝั่งเป็นวันที่ 3 แล้ว ด้านผู้ว่าฯ สั่งเตือน 12 อำเภอเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด
วันนี้ (16 ธ.ค.) หลังจากมีการประกาศศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก ฉบับที่ 7 วันที่ 16 ธ.ค. เรื่อง คลื่นลมแรงในอ่าวไทย และฝนตกหนักบริเวณภาคใต้ตอนล่าง ในช่วงวันที่ 18-21 ธ.ค.นี้ ขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงเกิดน้ำท่วมฉับพลัน และอยู่บริเวณชายฝั่งระมัดระวังอันตรายจากคลื่นสูง 2-4 เมตร ที่ซัดเข้าหาฝั่ง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงดังกล่าว
ขณะที่สภาพอากาศในพื้นที่ จ.ปัตตานี ตลอด 3 วันที่ผ่านมา ยังคงมีฝนตกหนักในพื้นที่ทั้ง 12 อำเภอ จนทำให้สภาพน้ำในแม่น้ำปัตตานี และแม่น้ำสายบุรีทั้ง 2 สายเพิ่มขึ้น แต่ยังไม่วิกฤต แต่หากฝนยังคงตกหนักอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับต้นน้ำจาก จ.ยะลา ไหลลงสู่แม่น้ำทั้ง 2 สายคาดว่าระดับน้ำอาจจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และอาจจะส่งผลให้น้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มติดแม่น้ำทั้ง 2 สายทันที โดยพื้นที่เสี่ยงของ จ.ปัตตานี ที่อาจจะเกิดน้ำท่วมฉับพลัน คือ อ.แม่ลาน อ.ยะรัง อ.หนองจิก และ อ.เมือง ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มเกิดน้ำท่วมซ้ำซาก ขณะที่ชาวประมงขนาดเล็ก หรือประมงพื้นบ้านใน อ.สายบุรี อ.ยะหริ่ง อ.หนองจิก อ.ปะนาเระ และ อ.ไม้แก่น กว่าพันลำได้หยุดออกหาปลาเป็นวันที่ 3 เช่นเดียวกับเรือประมงขนาดใหญ่ และขนาดกลางที่จอดเทียบท่าก็ยังงดออกหาปลา หลังจากกรมอุตุฯ แจ้งเตือนแจ้งเตือน และคาดว่าจะหยุดต่อไปอีกหลายวัน เนื่องจากระยะนี้มีคลื่นลมแรง
ด้าน นายวีรพงศ์ แก้วสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ในฐานะผู้อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม จ.ปัตตานี ได้ออกหนังสือประกาศแจ้งเตือนไปยังนายอำเภอทั้ง 12 อำเภอ ให้เฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และให้ตรวจสอบสัญญาณของ “มิสเตอร์เตือนภัย” ที่ติดตั้งในพื้นที่เสี่ยงให้สามารถใช้การได้ พร้อมกันนี้ ได้ประสานความร่วมมือหน่วยกำลังในพื้นที่จัดเครื่องมือต่างๆ ให้มีความพร้อมเพื่อเข้าช่วยเหลือหากเกิดภัยธรรมชาติในพื้นที่ พร้อมกับการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมให้รีบนำสิ่งของเครื่องใช้ไฟฟ้าขึ้นไปอยู่ที่สูงเพื่อป้องกันความสูญเสีย
วันนี้ (16 ธ.ค.) หลังจากมีการประกาศศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก ฉบับที่ 7 วันที่ 16 ธ.ค. เรื่อง คลื่นลมแรงในอ่าวไทย และฝนตกหนักบริเวณภาคใต้ตอนล่าง ในช่วงวันที่ 18-21 ธ.ค.นี้ ขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงเกิดน้ำท่วมฉับพลัน และอยู่บริเวณชายฝั่งระมัดระวังอันตรายจากคลื่นสูง 2-4 เมตร ที่ซัดเข้าหาฝั่ง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงดังกล่าว
ขณะที่สภาพอากาศในพื้นที่ จ.ปัตตานี ตลอด 3 วันที่ผ่านมา ยังคงมีฝนตกหนักในพื้นที่ทั้ง 12 อำเภอ จนทำให้สภาพน้ำในแม่น้ำปัตตานี และแม่น้ำสายบุรีทั้ง 2 สายเพิ่มขึ้น แต่ยังไม่วิกฤต แต่หากฝนยังคงตกหนักอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับต้นน้ำจาก จ.ยะลา ไหลลงสู่แม่น้ำทั้ง 2 สายคาดว่าระดับน้ำอาจจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และอาจจะส่งผลให้น้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มติดแม่น้ำทั้ง 2 สายทันที โดยพื้นที่เสี่ยงของ จ.ปัตตานี ที่อาจจะเกิดน้ำท่วมฉับพลัน คือ อ.แม่ลาน อ.ยะรัง อ.หนองจิก และ อ.เมือง ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มเกิดน้ำท่วมซ้ำซาก ขณะที่ชาวประมงขนาดเล็ก หรือประมงพื้นบ้านใน อ.สายบุรี อ.ยะหริ่ง อ.หนองจิก อ.ปะนาเระ และ อ.ไม้แก่น กว่าพันลำได้หยุดออกหาปลาเป็นวันที่ 3 เช่นเดียวกับเรือประมงขนาดใหญ่ และขนาดกลางที่จอดเทียบท่าก็ยังงดออกหาปลา หลังจากกรมอุตุฯ แจ้งเตือนแจ้งเตือน และคาดว่าจะหยุดต่อไปอีกหลายวัน เนื่องจากระยะนี้มีคลื่นลมแรง
ด้าน นายวีรพงศ์ แก้วสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ในฐานะผู้อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม จ.ปัตตานี ได้ออกหนังสือประกาศแจ้งเตือนไปยังนายอำเภอทั้ง 12 อำเภอ ให้เฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และให้ตรวจสอบสัญญาณของ “มิสเตอร์เตือนภัย” ที่ติดตั้งในพื้นที่เสี่ยงให้สามารถใช้การได้ พร้อมกันนี้ ได้ประสานความร่วมมือหน่วยกำลังในพื้นที่จัดเครื่องมือต่างๆ ให้มีความพร้อมเพื่อเข้าช่วยเหลือหากเกิดภัยธรรมชาติในพื้นที่ พร้อมกับการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมให้รีบนำสิ่งของเครื่องใช้ไฟฟ้าขึ้นไปอยู่ที่สูงเพื่อป้องกันความสูญเสีย