ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก ประกาศเตือนคลื่นลมแรงในอ่าวไทย และฝนตกหนักบริเวณภาคใต้ตอนล่าง เรือประมงยังจอดท่า ทน.สงขลา สั่งเฝ้าระวัง และเร่งระบายน้ำลงทะเลสาบสงขลาป้องกันน้ำท่วม ขณะเดียวกัน ทะเลสาบสงขลาช่วงนี้ปลาดุกทะเลชุกชุม สร้างรายได้ให้ชาวประมงพื้นบ้านมหาศาล
วันนี้ (14 ธ.ค.) ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก ประกาศฉบับที่ 4 (44/2557) เรื่อง คลื่นลมแรงในอ่าวไทย และฝนตกหนักบริเวณภาคใต้ตอนล่าง เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูง หรือมวลอากาศเย็นกาลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนยังคงแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทาให้ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ (ลมประจาฤดู) ที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกาลังแรง ส่งผลให้บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออก ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงมาถึงนราธิวาส มีฝนเกือบทั่วไป และมีฝนหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยของจังหวัดดังกล่าวระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนัก
สำหรับอ่าวไทย มีคลื่นจัด ความสูงของคลื่น 2-4 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งระมัดระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่ง และขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระหว่างวันที่ 14-16 ธันวาคม 2557 ทำให้เรือประมงทั้งขนาดเล็ก และขนาดใหญ่ยังคงจอดเรียงรายบริเวณท่าจอดเรือที่บริเวณท่าเทียบเรือประมงใหม่สงขลา เพื่อรอเวลาให้คลื่นลมลดความรุนแรงลง เพราะไม่สามารถนำเรือออกไปทำการประมงได้ หลังจากทราบข่าวการแจ้งเตือนจากศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก ไม่กล้าเสี่ยงกับคลื่นที่สูง 2-4 เมตร เกรงว่าจะเกิดอันตรายถูกคลื่นซัดเรือจมได้
ในขณะเดียวกัน เทศบาลนครสงขลา ได้เฝ้าระวังติดตามข่าวอากาศอย่างใกล้ชิด และเดินเครื่อง สูบน้ำขนาดใหญ่ และขนาดกลางพร้อมกัน 2 เครื่อง ที่โรงสูบน้ำหน้าสวน 72 พรรษามหาราชินี สูบน้ำออกจากลำรางคูเมือง ย่านชุมชนเตาอิฐ ลงสู่คลองสำโรงไหลลงสู่ทะเลสาบสงขลาอย่างรวดเร็ว โดยปิดประตูระบายน้ำสายหลักเนื่องจากน้ำทะเลหนุน ส่งผลให้ระดับน้ำในคลองสำโรงสูงกว่าระดับน้ำที่ประตูระบายน้ำ เพื่อป้องกันน้ำท่วมเมืองสงขลา
ในช่วงเดือนธันวาคมของทุกปี ในทะเลสาบสงขลาจะเป็นช่วงที่มีปลาดุกทะเลขนาดใหญ่ชุกชุมมาก ทำให้ชาวประมงพื้นบ้านที่ออกวางอวนกัดในทะเลสาบสงขลา สามารถจับปลาดุกทะเลขนาดใหญ่ได้คนละหลายสิบตัว และจะมีเจ้าของร้านอาหาร และประชาชนที่ผ่านไปมาบริเวณสวน 72 พรรษามหาราชินี ท่าสะอ้าน แวะซื้อในราคากิโลกรัมละ 200 บาท สร้างรายได้ให้ชาวประมงพื้นบ้านเป็นกอบเป็นกำในช่วงนี้
