xs
xsm
sm
md
lg

นายกศรีสุนทรพร้อมญาติร้องผู้ว่าฯ ภูเก็ต ตำรวจทำเกินกว่าเหตุงัดและค้นบ้าน (ชมคลิป)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวภูเก็ต - นายกเทศมนตรีศรีสุนทร จ.ภูเก็ต พร้อมด้วยญาติๆ ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมจากผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กรณีตำรวจทำเกินกว่าเหตุ เข้าไปงัดประตู และรื้อค้นในบ้านโดยไม่แสดงหมายค้น และหมายจับตาม พ.ร.บ.เช็ค

เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (8 ธ.ค.) ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายวรวุฒิ ทรงยศ นายกเทศมนตรีศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต พร้อมด้วย นางหทัยรัตน์ ทรงยศ เจ้าของบ้านเลขที่ 80/4 ม.7 ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมจาก นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล นำหมายจับเข้าจับกุมพี่ชาย และงัดบ้านโดยอ้างอยู่ในช่วงกฎอัยการศึก โดยมีกำนัน ผู้ใหญ่ในจังหวัดภูเก็ต และชาวบ้านเดินทางมาให้กำลังใจประมาณ 200 คน

นางหทัยรัตน์ ทรงยศ เจ้าของบ้านเลขที่ 80/4 ม.7 ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต กล่าวว่า เนื่องจากเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2557 เวลาประมาณ 19.05 น. พ.ต.ต.สมหมาย อ่อนคำ สว.สส.สภ.เชิงทะเล ช่วยราชการกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบ และสารวัตรทหาร จำนวน 17 นาย พร้อมอาวุธครบมือเข้าล้อมบ้าน ใช้เหล็กงัดประตูบ้านจนเสียหาย เข้ารื้อค้นทุกส่วนของบ้าน แม้กระทั่งตู้เสื้อผ้าทุกตู้ในบ้านเลขที่ดังกล่าว โดยอ้างเพียงว่ามีหมายจับ นายผดุงศักดิ์ ทรงยศ ซึ่งเป็นพี่ชาย ในข้อหา พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากใช้เช็ค พ.ศ.2534 ซึ่งระวางโทษเพียงปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือทั้งจำทั้งปรับ เป็นความผิดอันยอมความได้มิใช่ความซึ่งหน้า

และยังได้กล่าวหาญาติๆ รวมทั้งตัวนายกเทศมนตรีตำบลศรีสุนทร ที่อยู่ในเหตุการณ์ซึ่งได้ร่วมกันสอบถาม และแจ้งว่า บุคคลตามหมายจับไม่ได้พักอาศัยอยู่ในบ้าน และขอให้ดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย “กำลังหน่วงเหนี่ยวเวลาและขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ระวังจะเข้าตัว และอ้างว่าเป็นการใช้อำนาจตามกฎอัยการศึก สามารถที่จะงัดบุกทำลายเข้าไปในบ้านได้” อันเป็นการแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมอย่างร้ายแรง โดยมิได้แสดงหมายจับ และมิได้หมายค้นเพื่อปฎิบัติให้เป็นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา

นางหทัยรัตน์ กล่าวต่อไปอีกว่า นอกจากนั้นพฤติกรรมการปฎิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าวมีความน่าเคลือบแคลงกล่าวคือ ทั้งๆ ที่ตนเองขอดูบัตรประจำตัวเพื่อยืนยันว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริงหรือไม่ แต่เจ้าหน้าที่กลุ่มดังกล่าวก็ไม่ยอมแสดงบัตรประจำตัว และเมื่อตนเองขอดูหมายจับตามที่กล่าวอ้างก็ไม่ยอมให้ดู แม้กระทั่งสิ้นสุดการตรวจค้นบ้าน และตนเองเกรงว่าจะไม่ปลอดภัยด้วย จึงตัดสินใจเข้าร้องขอความเป็นธรรมในครั้งนี้

ด้าน นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวภายหลังรับหนังสือขอความเป็นธรรมดังกล่าว ว่า หลังจากรับหนังสือแล้วจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนหาข้อเท็จจริงว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร รวมทั้งจะมีการสอบถามไปยังผู้บังคับบัญชาของตำรวจนายดังกล่าว และพวก เมื่อได้ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรแล้วจะแจ้งให้ผู้ร้องเรียนได้รับทราบ และการตรวจสอบดังกล่าวจะให้ความเป็นธรรมต่อทั้งสองฝ่าย

อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นได้ยื่นหนังสือต่อทางผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ผ่านทาง พ.ต.ต.วิทูรย์ กองสุดใจ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต เพื่อตั้งคณะการตรวจสอบข้อเท็จจริง และขอให้ย้ายเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปปฏิบัติการออกนอกพื้นที่ทั้งหมด เพื่อความปลอดภัยของ นายวรวุฒิ ทรงยศ และญาติๆ นอกจากนี้แล้ว ยังได้ส่งหนังสือดังกล่าวไปยังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 และคณะธรรมาภิบาลจังหวัดภูเก็ต







 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น