ชุมพร - จนท. ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง จ.ชุมพร ผ่าพิสูจน์ซากวาฬ หาสาเหตุการตาย พบมีพยาธิในหัวจำนวนมาก นอกจากนั้น ยังพบทรายทะเลอุดในหลอดอาหาร
วันนี้ (1 ธ.ค.) นายสัตวแพทย์วัชรา ศากรวิมล สัตวแพทย์ปฏิบัติการ ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง จ.ชุมพร พร้อมเจ้าหน้าที่ ได้ผ่าพิสูจน์วาฬหัวทุยเล็ก หรือวาฬแคระ ซึ่งเป็นวาฬเพศเมีย ยาว 2.12 เมตร หนักกว่า 100 กิโลกรรม ซึ่งถูกคลื่นซัดเข้ามาเกยตื้นที่บริเวณ อ่าวบ้านบางเบิด หมู่ 5 ต.ปากคลอง อ.ปะทิว จ.ชุมพร เมื่อวานนี้ (30 พ.ย.) ซึ่งมีสภาพยังสดสมบูรณ์ คาดตายมาแล้วไม่ถึง 24 ชั่วโมง
จากการผ่าพิสูจน์พบว่า มีทรายทะเลอุดอยู่ในหลอดอาหาร และที่ช่องกล้ามเนื้อด้านขวา และส่วนหัวมีตัวพยาธิอยู่จำนวนหนึ่ง โดยพยาธิแต่ละตัวมีลักษณะคล้ายหลอดน้ำแข็ง มีความยาวเฉลี่ยตัวละ 40-48 เซนติเมตร จากการผ่าพิสูจน์เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า วาฬตัวดังกล่าวน่าจะมีการป่วยทำให้ร่างกายมีอาการอ่อนแอ เนื่องจากมีพยาธิอยู่ในหัว เมื่อร่างกายอ่อนแอ จึงถูกคลื่นซัดเข้ามายังเกยอยู่ชายฝั่งทั้งๆที่ยังไม่ตาย จึงทำให้คลื่นชายฝั่งซัดทรายเข้าปากไปอุดอยู่ในหลอดอาหารจนเป็นเหตุให้วาฬตัวดังกล่าวตายในที่สุด
สำหรับวาฬหัวทุยเล็ก ลักษณะคล้ายวาฬหัวทุยแคระ เป็นวาฬแคระขนาดเล็ก เป็นสัตว์ทะเลหายากใกล้สูญพันธุ์ อาศัยอยู่ในแถบทะเลนอก หรือทะเลน้ำลึก และถือเป็นครั้งแรกที่พบวาฬดังกล่าวเข้ามาเกยหาดตายที่บริเวณอ่าวไทยทางภาคใต้ในพื้นที่ จ.ชุมพร ครั้งนี้ สำหรับกระดูกของวาฬ หลังการผ่าพิสูจน์เจ้าหน้าที่จะได้ส่งไปเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ จ.ภูเก็ต ต่อไป
