xs
xsm
sm
md
lg

ตร.ภูเก็ตโชว์ผลงานกวาดล้างอาชญากรรมในพื้นที่จับดะยาไอซ์-มีด-ปืน (ชมคลิป)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ตำรวจภูเก็ตโชว์ผลงานระดมกวาดล้างอาชญากรรมในพื้นที่ จับเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่เครือข่ายเรือนจำ พร้อมยึดยาไอซ์กว่าครึ่งกิโล มูลค่ากว่า 1.3 ล้านบาท ขณะที่อาวุธปืน-มีดจับกุมต่อเนื่อง พร้อมประกาศต้องถอนรากถอนโคนยาเสพติดให้หมดไปจากพื้นที่

เมื่อเวลา 11.30 น. วันนี้ (1 ธ.ค.) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต.พชร บุญญสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต และผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ร่วมกันแถลงผลการระดมกำลังเจ้าหน้าที่กวาดล้างอาชญากรรมในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ระหว่างวันที่ 24-30 พ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งสามารถจับกุมคดีที่น่าสนใจได้หลายคดี ประกอบด้วย คดีจับกุมเครือข่ายค้ายาไอซ์ ซึ่งสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 3 คน ของกลางยาไอซ์ จำนวน 437.77 กรัม ราคาประมาณ 1.3 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลงานของสถานีตำรวจภูธรวิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต

สำหรับคดีนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วิชิต ซึ่งตั้งด่านตรวจบริเวณสามแยกฮอนด้า ถนนเจ้าฟ้าตะวันออก เมื่อวันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้จับกุม นายสุรชัย คงอินทร์ อายุ 36 ปี พร้อมของกลางยาไอซ์จำนวนหนึ่ง จึงนำตัวมาสอบสวนพร้อมแจ้งข้อกล่าวหา มียาเสพติดประเภท 1 (ยาไอซ์) ไว้ในครอบครอง จากการสอบสวนทราบว่า รับยาไอซ์มาจาก นายพรชัย ช่วยพิทักษ์ อายุ 43 ปี เจ้าหน้าที่จึงขายผลจับกุมพร้อมนำตัวมาสอบสวนขยายผล พร้อมแจ้งข้อกล่าวหามียาเสพติดประเภท 1 (ยาไอซ์) ไว้ในครอบครอง และจากการสอบสวนทราบว่า รับยามาจากนายสุนทร สมทัศน์ อายุ 52 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงวางแผนล่อซื้อยาไอซ์จากนายสุนทร โดนนัดส่งมอบยาไอซ์กันที่บริเวณห้องพัก ถนนบางใหญ่ หลังห้างบิ๊กซี สาขาภูเก็ต หมู่ที่ 5 ตซวิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมได้พร้อมของยาไอซ์ จำนวน 30.17 กรัม และนำไปตรวจค้นที่ห้องพักยึดยาไอซ์ได้อีก 405.60 กรัม จึงควบคุมตัวมาสอบสวน จากการสอบสวนทราบว่า นายสุนทร สั่งยาไอซ์มาจากอดีตผู้ต้องขังในเรือนจำทางภาคเหนือ โดยมีคนนำมาส่งให้ที่สถานีขนส่งจังหวัดภูเก็ต หลังจากรับยาไอซ์มาแล้วนำไปกระจายต่อให้แก่ลูกค้า แต่สุดท้ายก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้พร้อมเครือข่าย ซึ่งในส่วนของนายสุนทร นั้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหา พยายามจำหน่ายและมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์)

อย่างไรก็ตาม นอกจากจะมีการจับเครือข่ายยาไอซ์แล้ว ในส่วนของ สภ.วิชิต ยังได้จับกุม นายอภิสิทธิ์ ศรีนาคราช อายุ 45 ปี พร้อมด้วยของกลางพืชต้นกระท่อม จำนวน 1 ต้น และใบพืชกระท่อมสด จำนวน 30 ใบ แจ้งข้อหาผลิตยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (ต้นพืชกระท่อม) โดยการปลูกผิดกฎหมาย และมียาเสพติดประเภท 5 (ใบกระท่อมไว้ในครอบครอง) โดยจับกุมได้ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งด่านตรวจบริเวณซอยวิชิตน้อมเกล้า ม. 9 ต.วิชิต หลังจากนั้นนำไปตรวจค้นที่บ้านพักในพื้นที่ ม.1 ต.วิชิต

ขณะที่ในส่วนของสถานีตำรวจกะทู้ ได้จับกุม นายประสบโชค สมบูรณ์ พร้อมด้วยสิ่งเทียมอาวุธปืน หรือปืนปลอม และน้ำกระท่อม จำนวน 2 ขวด ซึ่งการจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 29 พ.ย. มีการแชร์คลิป และภาคนิ่งกรณีหนุ่มผมยาว ในมือถืออาวุธปืนเดินเข้าไปหาหญิงสาวรายหนึ่งที่กำลังยกมือไหว้ ซึ่งเหตุเกิดที่บริเวณถนนทางขึ้นเขาป่าตองหน้าศาลเจ้า ซึ่งในขณะที่เกิดเหตุมีผู้หวังดีโทรศัพท์ไปแจ้งตำรวจว่ามีการทะเลาะวิวาท ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าไปตรวจสอบ และติดตามจับกุม จนกระทั่งสามารถจับกุมผู้ต้องหารายดังกล่าวได้ ในเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การทำไปเพราะบันดาลโทสะ หลังจากที่มีการขับรถเปิดไฟใส่กัน

ส่วน สภ.เมืองภูเก็ต ได้จับกุมผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ จำนวน 2 ราย คือ นายบรรจบ พราหมเพ็ชร อายุ 44 ปี และ น.ส.อำไพ ฤทธิณรงค์ อายุ 58 ปี ชาว จ.ภูเก็ต พร้อมด้วยของกลางอุปกรณ์เดินป่า เครื่องประดับ เครื่องเงิน สร้อยคอ กำไล เข็มขัด เสื้อผ้า รวมมูลค่าประมาณ 620,000 บาท โดยแจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม หรือร่วมกันรับของโจร

สำหรับการจับกุมในครั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากเจ้าของร้านอินทูก๊อฟฟี่ ถนนเทพกระษัตรี เมื่อคืนวันที่ 30 พ.ย. ว่า มีคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์ภายในร้าน แต่มีสัญญาณเตือนภัยดังขึ้นคนร้ายได้หลบหนีไป ทิ้งเพียงรถจักรยาน และโทรศัพท์มือถือไว้ จากการตรวจสอบพบว่าจักรยานยนต์ที่คนร้ายทิ้งไว้เป็นรถจักรยานยนต์คันเดียวกับที่คนร้ายใช้ก่อเหตุลักทรัพย์ที่ร้านอินเดีย ถนนมนตรี อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งครั้งนั้นได้ของกลางไปจำนวนมากมูลค่ากว่าครึ่งล้านบาท

เจ้าหน้าที่จึงออกสืบสวน และติดตามจับกุมจนทราบว่า คนร้ายที่ก่อเหตุมีนายบรรจบ พราหมเพ็ชร ร่วมอยู่ด้วย ซึ่งนายบรรจบ นั้นเคยติดคุกมาแล้วในคดีร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจรเมื่อปี 51 และเคยถูกจับกุมข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์ เมื่อปี 2553 เพิ่งพ้นโทษมาประมาณ 4 เดือน โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้พร้อมของกลางที่นำไปขายต่อให้แก่ น.ส.อำไพ

พล.ต.ต.พชร กล่าวต่อไปว่า สำหรับการกวาดล้างจับกุมในครั้งนี้พบว่าทุกสถานีมีผลงานการกวาดล้างจับกุมที่ดีขึ้น ทำให้สามารถตรวจยึด และจับกุมคดีเกี่ยวกับอาวุธปืนได้ผู้ต้องหา 6 ราย ยึดอาวุธปืนได้ 6 กระบอก นอกจากนั้น ยังตรวจยึดกระสุนปืนชนิดต่างได้อีก 151 นัด อาวุธมีดจำนวน 26 เล่ม ขวาน จำนวน 1 ด้าม ยาบ้า จำนวน 12 เม็ด ซึ่งการกวาดล้างจับกุมนั้น ในส่วนของยาเสพติดได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการเป็นพิเศษจะต้องมีการกวาดล้างแบบถอนรากถอนโคน และขยายผลไปยังตัวการใหญ่ให้ได้

สำหรับในส่วนของคดียาไอซ์ ที่จับกุมได้ในครั้งนี้พบว่า มีพฤติกรรมเหมือนกับรายอื่นๆก่อนหน้านี้ที่มีการสั่งซื้อยาไอซ์ผ่านทางเครือข่ายเรือนจำ หลังจากนั้น เจ้าของยาก็จะให้คนนำมาส่งซึ่งส่วนใหญ่จะนักรถทัวร์โดยสารมา และนำมาส่งที่สถานีขนส่งภูเก็ต โดยนัดเวลาส่งมอบกัน เมื่อได้ยาแล้วก็นำมากระจายในพื้นที่ ซึ่งนอกจากจะจับกุมเครือข่ายในภูเก็ตแล้ว ขณะนี้ได้มีการสืบสวนขยายผลเพื่อจับกุมเจ้าของยาเสพติดมาลงโทษให้ได้ รวมทั้งติดตามยึดทรัพย์


 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น