นครศรีธรรมราช - ชาวประมงนครศรีธรรมราชสุดทน ล้อมจับเรือประมงเวียดนามรุกล้ำน่านน้ำทำประมงผิดกฎหมายลากเข้าฝั่งอำเภอหัวไทร ด้านชาวประมงเผยกลางทะเลในน่านน้ำไทยมีเรือเวียดนามลอบทำประมงล้างผลาญหลายร้อยลำ โดยได้เคยแจ้งให้เจ้าหน้าที่จัดการหลายครั้ง แล้วแต่กลับเพิกเฉย
วันนี้ (28 พ.ย.) ที่ จ.นครศรีธรรมราช ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าหลังจากที่บริเวณท่าเทียบเรือปากน้ำแพรกเมือง ตำบลหน้าสตน อำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้ามารอรับลูกเรือประมงชาวเวียดนาม จำนวน 11 คน ชาวกัมพูชา 7 คน พร้อมด้วยเรือประมงที่ทำประมงอย่างผิดกฎหมาย จำนวน 2 ลำ โดยเรือทั้ง 2 ลำนี้ได้ถูกเรือประมงของชาวอำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช ล้อมจับไว้ได้หลังจากรุกล้ำน่านน้ำไทยห่างจากชายฝั่งประมาณ 35 ไมล์ทะเล และลากเข้าฝั่งเพื่อนำส่งให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดี
นายนรินทร์ นิยมเดชา เจ้าของเรือประมงอวนปู ที่เป็นผู้เข้าล้อมจับเรือชาวเวียดนาม ที่รุกล้ำน่านน้ำไทย และเข้ามาทำประมงอย่างผิดกฎหมาย เปิดเผยว่า เรือประมงเวียดนามรุกล้ำเข้ามาไม่น้อยกว่า 200-300 ลำ ห่างจากชายฝั่งไทยแค่ราว 35 ไมล์ทะเล ระหว่างสงขลาไปจนถึงอำเภอสิชล จ.นครศรีธรรมราช ได้ใช้เครื่องมือลากกวาดหน้าดินเพื่อลากปลิงทะเล ชาวประมงอวนปูเป็นอวนหน้าดินได้รับความเสียหายอย่างหนัก ช่วงแรกพยายามขับไล่ แต่ลำอื่นๆ ยังเข้ามาทำลายต่ออีก จนชาวบ้านไม่สามารถทนได้จึงต้องใช้วิธีนี้กันเอง
นายนรินทร์ ยังเรียกร้องด้วยว่า ขอให้หน่วยงานด้านความมั่นคงเร่งแก้ไขปัญหาผ่านทางการทูตเวียดนาม เรียกร้องให้ชาวประมงเวียดนามหยุดสร้างความเสียหายในเขตน่านน้ำไทย อย่างเร่งด่วน ความเสียหายของชาวประมงไทยโดยเฉพาะกับเครื่องมืออุปกรณ์การประมงที่ต้องลงทุนสูงมาก
ขณะที่ลูกเรืออีกรายระบุว่า ชาวเรือประมงของไทยไม่สามารถทนได้อีกแล้วจึงต้องร่วมมือช่วยกันจับเรือประมงเวียดนามกันเอง เราพยายามแจ้งเจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่องแต่ไม่เป็นผล เรือเวียดนามที่เข้ามาอยู่ในเขตของนครศรีธรรมราช ตั้งแต่อำเภอขนอม จ.นครศรีธรรมราช ลงมาจนถึงสงขลานั้นมีมากกว่า 200-300 ลำ แจ้งเจ้าหน้าที่หลายครั้งแต่เงียบ จนในที่สุดเราต้องดำเนินการกันเองเพื่อให้สังคม และผู้สื่อข่าวรับรู้ ไม่เช่นนั้นเราพึ่งพาอาศัยทางการไม่ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังจากที่เรือประมงชาวหัวไทร ลากเรือเวียดนามเข้าสู่ฝั่งมีเพียงเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ประมงเท่านั้นที่มารอรับลูกเรือไปดำเนินคดี ไม่ปรากฏว่ามีตำรวจน้ำ หรือทหารเรือ เข้ามาร่วม มีเพียงหน่วยข่าวทหารเรือที่ปรากฏตัวอยู่เพียง 2 นายเท่านั้น แต่หลังจากนั้น ปรากฏว่า มีการรายงานของแต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในทำนองว่าได้เข้าไปจับกุมเอง แต่ข้อเท็จจริงนั้นพบว่า เป็นการล้อมจับโดยชาวเรือประมงไทยเพียง 3 ลำเท่านั้น แต่ทางการได้มาอ้างผลงานหลังจากที่ชาวประมงได้ลากเรือเวียดนามเข้าฝั่งในภายหลัง