ศูนย์ข่าวศรีราชา - ทัพเรือภาคที่ 1 นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหารบุกจับเรือประมงเวียดนาม 4 ลำ หลังรับแจ้งว่ามีการลักลอบเข้ามาทำประมงรุกล้ำในฝั่งอ่าวไทย
เมื่อเวลา 06.00 น.วันนี้ (23 ส.ค.) พล.ร.ท.วีระพันธ์ สุขก้อน ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล เขตทัพเรือภาคที่ 1 ได้สั่งการให้ น.อ.สำเริง จันทร์โส เสนาธิการกองเรือปฏิบัติการ สนธิกำลังร่วมกับกองกำกับการ 5 กองกำกับการตำรวจน้ำ นำเรือหลวงสงขลา เรือตรวจการณ์ ต.83 และเรือตรวจการณ์ ต.113 ออกจากชายฝั่งท่าเทียบเรือแหลมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี พร้อมเฮลิคอปเตอร์ กองการบินทหารเรือ กองเรือยุทธการ ออกลาดตระเวนตรวจจับเรือประมงสัญชาติเวียดนาม หลังรับแจ้งว่า มีการลักลอบเข้ามาทำประมงในฝั่งอ่าวไทย
โดยขณะทำการลาดตระเวนพิกัด แบริ่ง 163 ห่างจากเกาะจวง ไปทางทิศใต้ ระยะ 33 ไมล์ทะเล ได้พบกลุ่มเรือประมงสัญชาติเวียดนาม จำนวน 4 ลำ กระจัดกระจายลอยลำทำประมงจึงเข้าควบคุมเรือ ประกอบด้วย เรือหมายเลข CM 99828 TS ตัวเรือสีฟ้า พร้อมควมคุมตัวลูกเรือ จำนวน 10 คน เรือหมายเลข CM 99186 TS ตัวเรือสีเขียวคาดฟ้า พร้อมลูกเรือ 9 คน เรือหมายเลข CM 99628 TS ตัวเรือสีฟ้าคาดขาว พร้อมลูกเรือ 9 คน และเรือหมายเลข CM 99842 TS ตัวเรือสีเขียวคาดฟ้าขาว พร้อมลูกเรือ 9 คน
จากการตรวจสอบพบเรือทุกลำมีอุปกรณ์จับสัตว์น้ำ และอาหารทะเล จึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน ก่อนนำเข้าเทียบยังท่าเทียบเรือกลางอ่าวกองเรือยุทธการ อำเภอสัตหีบ พร้อมนำตัวลูกเรือทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรสัตหีบ เพื่อดำเนินคดีในข้อหาทำการประมงรุกล้ำน่านน้ำไทยในเขตเศรษฐกิจจำเพาะ หนีเข้าราชอาณาจักไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต และผิด พ.ร.บ.สิทธิทำการประมง
น.อ.สำเริง จันทร์โส กล่าวว่า ปัจจุบันพบว่ามีเรือประมงเวียดนามจำนวนมากรุกล้ำเข้ามาทำประมงในอ่าวไทย ซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจจำเพาะ สร้างผลกระทบให้แก่ประมงไทยเป็นอย่างมาก รวมถึงสถานะด้านความมั่นคงของชาติ ทัพเรือภาคที่ 1 ในฐานะหน่วยงานรับผิดชอบในการปราบปรามจับกุมเรือประมงต่างชาติที่รุกล้ำเข้ามาในน่านน้ำไทย จึงได้ออกทำการลาดตระเวนพื้นที่กันอย่างเข้มงวด
และในปีที่ผ่านมา สามารถจับกุมเรือประมงเวียดนามได้จำนวนมาก ส่งผลให้เห็นว่า อ่าวไทยเป็นพื้นที่ที่มีทรัพยากรใต้ท้องทะเลอย่างอุดมสมบูรณ์ จึงจำเป็นต้องรักษาไว้เพื่อเป็นผลประโยชน์ของชาติสืบไป