ตรัง - หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหายางทั้งระบบของจังหวัดตรัง ร่วมประชุมหารือเร่งด่วนตามคำสั่งนายกรัฐมนตรี หลังจากราคายางตกต่ำอย่างต่อเนื่อง ที่ประชุมเห็นชอบหาแนวทางสร้างมูลค่าเพิ่ม พบต้นทุนปลูกยางในไทยสูงกว่ามาเลย์
วันนี้ (27 พ.ย.) ที่สำนักงานเกษตรจังหวัดตรัง นายสาธร นราวิสุทธิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ได้เรียกประชุมด่วนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหายางพาราทั้งระบบ ทั้งหน่วยงานของรัฐ และเอกชน ประมาณ 40 คน หลังจากมีคำสั่งของนายกรัฐมนตรี ให้ทุกจังหวัดที่มีพื้นที่ปลูกยางพาราร่วมหารือในการแก้ปัญหา ซึ่งล่าสุด กลุ่มเครือข่ายสหกรณ์ชาวสวนยางภาคใต้ และเครือข่ายสหกรณ์โรงรมยางจังหวัดตรัง ได้เดินทางไปยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อเรียกร้องแก้ไขปัญหาราคายางตกต่ำนั้น
ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวว่า การผลิตยางในประเทศมากขึ้นทุกปี แต่การใช้ผลิตภัณฑ์ยางกลับน้อยลง หลายประเทศเพิ่มพื้นที่ปลูกยางมากขึ้น แม้แต่ประเทศไทยก็มีการเพิ่มพื้นที่ปลูกยางมากขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากนโยบายเพิ่มพื้นที่ปลูกยางในปี 2547 และต่อมาประเทศที่รับซื้อยางจากไทยมากที่สุด คือ จีน ก็มีพื้นที่ปลูกยางในประเทศ และต่างประเทศมากขึ้น จึงเห็นควรว่าทุกจังหวัดควรจะหาแนวทางสร้างมูลค่าจากยางเพิ่มขึ้น แทนจะเป็นการส่งออกในรูปแบบยางแท่งรมควันไปต่างประเทศ รวมทั้งหาแนวทางการลงทุนในจังหวัด เช่น อุตสาหกรรมถุงมือยาง รองเท้ายาง หรือใช้ในการสร้างถนน หรือเครื่องหมายจราจร
นอกจากนั้น ในการประชุมดังกล่าวยังได้มีการหยิบยกมาตรการโค่นยาง ที่มีอายุเกิน 25 ปี เพื่อลดต้นทุน เนื่องจากยางในอายุดังกล่าวให้ผลผลิตต่ำ แต่ปัจจุบันกลับมีการอัดแก๊สเข้าต้นยาง เพื่อให้ยางที่กำลังจะหมดอายุการกรีด มีน้ำยางเพิ่มขึ้น อีกทั้งจากการสำรวจยังพบว่า ต้นทุนการผลิตยางประเทศไทย ยังสูงกว่าประเทศมาเลเซีย หรืออินโดนีเซีย จึงเห็นควรลดต้นทุนแรงงาน และเพิ่มคุณภาพพันธุ์ยางที่ให้ผลผลิตมาก เป็นการลดพื้นที่การปลูก แต่ให้ปริมาณน้ำยางสูง ใช้แรงงานน้อย เพื่อคุ้มต่อการทำอาชีพสวนยางในอนาคต
ขณะที่ นายภราดร นุชิตศิริภัทรา เลขาธิการชาวสวนยางจังหวัดตรัง กล่าวว่า การแก้ปัญหาราคายางของรัฐบาลปัจจุบันถือว่ายังไม่ตรงจุด โดยเฉพาะการจ่ายเงินให้ชาวสวนยางไร่ละ 1,000 บาทต่อไร่ เป็นการช่วยเหลือช่วงสั้นๆ เท่านั้น อีกทั้งการที่มีชาวจีน เข้ามาตั้งโรงงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ถือว่าเป็นการลงทุนทางจิตวิทยามากกว่า และช่วยให้ราคายางสูงขึ้นเพียงเล็กน้อย ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า แกนนำชาวสวนยางจังหวัดตรัง เตรียมเดินทางไปยื่นหนังสือต่อ นายอำนวย ปะติเส รมช.เกษตรฯ กรณีปัญหาราคาตกต่ำในเร็วๆ นี้
วันนี้ (27 พ.ย.) ที่สำนักงานเกษตรจังหวัดตรัง นายสาธร นราวิสุทธิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ได้เรียกประชุมด่วนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหายางพาราทั้งระบบ ทั้งหน่วยงานของรัฐ และเอกชน ประมาณ 40 คน หลังจากมีคำสั่งของนายกรัฐมนตรี ให้ทุกจังหวัดที่มีพื้นที่ปลูกยางพาราร่วมหารือในการแก้ปัญหา ซึ่งล่าสุด กลุ่มเครือข่ายสหกรณ์ชาวสวนยางภาคใต้ และเครือข่ายสหกรณ์โรงรมยางจังหวัดตรัง ได้เดินทางไปยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อเรียกร้องแก้ไขปัญหาราคายางตกต่ำนั้น
ทั้งนี้ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวว่า การผลิตยางในประเทศมากขึ้นทุกปี แต่การใช้ผลิตภัณฑ์ยางกลับน้อยลง หลายประเทศเพิ่มพื้นที่ปลูกยางมากขึ้น แม้แต่ประเทศไทยก็มีการเพิ่มพื้นที่ปลูกยางมากขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากนโยบายเพิ่มพื้นที่ปลูกยางในปี 2547 และต่อมาประเทศที่รับซื้อยางจากไทยมากที่สุด คือ จีน ก็มีพื้นที่ปลูกยางในประเทศ และต่างประเทศมากขึ้น จึงเห็นควรว่าทุกจังหวัดควรจะหาแนวทางสร้างมูลค่าจากยางเพิ่มขึ้น แทนจะเป็นการส่งออกในรูปแบบยางแท่งรมควันไปต่างประเทศ รวมทั้งหาแนวทางการลงทุนในจังหวัด เช่น อุตสาหกรรมถุงมือยาง รองเท้ายาง หรือใช้ในการสร้างถนน หรือเครื่องหมายจราจร
นอกจากนั้น ในการประชุมดังกล่าวยังได้มีการหยิบยกมาตรการโค่นยาง ที่มีอายุเกิน 25 ปี เพื่อลดต้นทุน เนื่องจากยางในอายุดังกล่าวให้ผลผลิตต่ำ แต่ปัจจุบันกลับมีการอัดแก๊สเข้าต้นยาง เพื่อให้ยางที่กำลังจะหมดอายุการกรีด มีน้ำยางเพิ่มขึ้น อีกทั้งจากการสำรวจยังพบว่า ต้นทุนการผลิตยางประเทศไทย ยังสูงกว่าประเทศมาเลเซีย หรืออินโดนีเซีย จึงเห็นควรลดต้นทุนแรงงาน และเพิ่มคุณภาพพันธุ์ยางที่ให้ผลผลิตมาก เป็นการลดพื้นที่การปลูก แต่ให้ปริมาณน้ำยางสูง ใช้แรงงานน้อย เพื่อคุ้มต่อการทำอาชีพสวนยางในอนาคต
ขณะที่ นายภราดร นุชิตศิริภัทรา เลขาธิการชาวสวนยางจังหวัดตรัง กล่าวว่า การแก้ปัญหาราคายางของรัฐบาลปัจจุบันถือว่ายังไม่ตรงจุด โดยเฉพาะการจ่ายเงินให้ชาวสวนยางไร่ละ 1,000 บาทต่อไร่ เป็นการช่วยเหลือช่วงสั้นๆ เท่านั้น อีกทั้งการที่มีชาวจีน เข้ามาตั้งโรงงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ถือว่าเป็นการลงทุนทางจิตวิทยามากกว่า และช่วยให้ราคายางสูงขึ้นเพียงเล็กน้อย ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า แกนนำชาวสวนยางจังหวัดตรัง เตรียมเดินทางไปยื่นหนังสือต่อ นายอำนวย ปะติเส รมช.เกษตรฯ กรณีปัญหาราคาตกต่ำในเร็วๆ นี้
