ตรัง - ปศุสัตว์จังหวัดตรัง ระบุเป็นฝีมือเสือไฟ หรือชาวบานเรียก “คางคูด” ที่ย่องลงมากินหมูในฟาร์มด้วยการควักเฉพาะส่วนหัวใจ และตับออกไปจากท้อง ยันเป็นเสือที่ไม่อันตราย เพราะปกติจะกลัวคน แนะติดแสงสว่างป้องกันสัตว์เลี้ยง
จากกรณีที่หมูเพศผู้ อายุประมาณ 1 เดือน น้ำหนัก 30 กิโลกรัม ภายในฟาร์มหมูของ นายสมบูรณ์ คงจันทร์ อายุ 45 ปี ชาวบ้านหมู่ที่ 5 ตำบลเขาไพร อำเภอรัษฎา จังหวัดตรัง ได้ถูกสัตว์ร้ายซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นเสือไฟ หรือที่ชาวบ้านเรียกในภาษาถิ่นว่า “คางคูด” กัดกินตายแบบพิสดารด้วยการควักเฉพาะส่วนหัวใจ และตับออกไปจากท้อง ส่วนอวัยวะอื่นๆ ยังอยู่ครบ จนทำให้เจ้าของฟาร์มหมูต้องมีการเฝ้าเวรยามตลอด 24 ชม. เกรงสัตว์ร้ายย้อนกลับมากินซากที่เหลือ ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าวได้ส่งผลให้ชาวบ้านในพื้นที่บางคนก็รู้สึกแปลกใจ แต่ในขณะที่บางคนกลับรู้สึกหวาดกลัวจนไม่กล้าออกไปไหนในเวลาค่ำคืนนั้น
วันนี้ (22 พ.ย.) นายธวัช อุดมคณารัตน์ ปศุสัตว์จังหวัดตรัง กล่าวว่า ล่าสุดได้มีการส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบในพื้นที่อำเภอรัษฎาแล้ว พบว่า สัตว์ดังกล่าวน่าจะเป็นเสือไฟ หรือที่ชาวบ้านเรียกภาษาถิ่นว่า “คางคูด” อย่างแน่นอน เพราะดูจากพฤติกรรมการกัดกินเหยื่อ และซากที่เหลืออยู่ โดยเสือไฟ เป็นเสือสายพันธุ์เนื้อสด เช่น ปลาสด หมูสด ไก่สด และสัตว์เลี้ยงทั่วไป มีนิสัยไม่ดุร้ายมาก ถ้าเห็นคน หรือไฟจะเลี่ยงหนี พบได้โดยทั่วไป และชอบอาศัยอยู่ในป่าโปร่งชื้น ทั้งนี้ หากกัดกินเหยื่อจะกินเครื่องในก่อน เช่นเดียวกับเสือ หรือสิงโต ถ้าอิ่มก็จะทิ้งซากไว้ แต่ถ้าไม่อิ่มก็จะย้อนกลับมากินซากจนอิ่ม
ปศุสัตว์จังหวัดตรัง กล่าวอีกว่า เนื่องจากพื้นที่ตำบลเขาไพร อำเภอรัษฎา จังหวัดตรัง อยู่ติดกับเทือกเขาบรรทัด ซึ่งเป็นป่าต้นน้ำที่มีความอุดมสมบูรณ์ อาจเป็นไปได้ว่ายังมีสัตว์ป่าเหล่านี้หลงเหลืออยู่ เมื่อมันหิว ประกอบกับบนภูเขาอาจจะมีอาหารเหลือน้อย จึงลงมาหาเหยื่อกินในหมู่บ้าน แต่ขอฝากเตือนชาวบ้านว่าอย่าได้ตื่นกระหนก เนื่องจากโดยนิสัยเสือไฟจะกลัวคน แต่หากคิดว่าตัวเองจะเป็นอันตรายก็จะสู้เพื่อป้องกันตัวเองตามสัญชาตญาณเท่านั้น อย่างไรก็ตาม แม้ในพื้นที่จังหวัดตรัง ไม่เคยปรากฏพบเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน แต่ชาวบ้านสามารถป้องกันสัตว์เลี้ยงในฟาร์มได้โดยการเปิดไฟให้สว่างอยู่ตลอดเวลา