ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ผู้ราชการจังหวัดสงขลา ขยายผลยึดกัญชา 500 กก.ที่สงขลาล็อตใหญ่ในรอบปี พบเป็นของนายทุนใหญ่ชาวมาเลเซีย และตรวจยึดทรัพย์สินเพิ่มเติมอีกหลายรายการ
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่ตรวจยึดกัญกัญชาอัดแท่งล็อตใหญ่ จำนวน 493 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท ในพื้นที่ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา พร้อมผู้ต้องหา 3 คน ประกอบด้วย นายอาหนัน อาดำ อายุ 30 ปี ชาว จ.สตูล นายชัด นาคมา อายุ 35 ปี ชาว จ.สตูล และนายวิชญ์ วัฒนา อายุ 40 ปี ชาว จ.สงขลา เมื่อคืนวันที่ 16 พ.ย.ที่ผ่านมา
ล่าสุด วันนี้ (18 พ.ย.) ที่ศูนย์ปฏิบัติการ กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ จ.สงขลา นายธำรงค์ เจริญกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ฝ่ายปกครอง ตชด. บก.สส.ภาค 9 ภ.จว.สงขลา และ กอ.รมน.บึงกาฬ ร่วมกันแถลงถึงการขยายผลการสอบสวนที่มาของกัญชาทั้งหมด ซึ่งลักลอบนำเข้ามาจากประเทศลาว และปลายทางในประเทศมาเลเซีย และตรวจยึดทรัพย์สินเพิ่มเติมอีกหลายรายการ
ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า ผลการจับกุมกัญชาครั้งนี้เป็นล็อตใหญ่ในรอบปีนี้ และเป็นขบวนการค้ากัญชาข้ามชาติ นอกจากกัญชาทั้งหมดแล้ว เจ้าหน้าที่ได้รถยนต์เก๋ง BMW สีขาว ทะเบียน กบ 85 สงขลา รถยนต์เก๋งโตโยต้าอัลติส สีบรอนซ์ ทะเบียน กฉ 8311 สงขลา รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 100 ทะเบียนป้ายแดง ควนเนียง 2365 เฮโรอีน 1 หลอด ยาไอซ์ 1 หลอด หลอดแก้วใส โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง เงินสด 10,000 บาท เงินมาเลเซีย 1,000 ริงกิต และอาวุธปืนพกสั้น 1 กระบอก
ส่วนเบื้องหลังการทลายแก๊งค้ากัญชาข้ามชาติกลุ่มนี้ เริ่มจากเมื่อวันที่ 14 พ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ ตชด.244 และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. สืบทราบว่า จะมีการลักลอบขนกัญชาล็อตใหญ่จากลาวไปส่งในพื้นที่ภาคใต้ จึงได้ส่งสายลับแฝงตัวไปรับกัญชาที่ริมน้ำโขง พื้นที่ จ.นครพนม ซึ่งมีการนำกัญชาใส่กระสอบปุ๋ยห่อด้วยถุงพลาสติกสีดำ จำนวน 13 กระสอบ มาวางไว้ สายลับจึงลำเลียงกัญชาไปส่งให้แก่ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน โดยนัดส่งของกันที่ศูนย์อาหารเทศบาลตำบลกำแพงเพชร อ.รัตภูมิ และทั้ง 3 คน ขับรถยนต์ BMW และรถจักรยานยนต์มารับกัญชา เจ้าหน้าที่จึงซ้อนแผนจับกุม และขยายผลยึดของกลางทั้งยาเสพติด และทรัพย์สินอีกหลายรายการ
จากการสอบสวน นายอาหนัน ให้การว่า มีนายทุนค้ายาเสพติดชาวมาเลเซีย เป็นคนติดต่อสั่งซื้อกับท้าวคำกอง ในฝั่งลาว ส่วนพวกตนทำหน้าที่รับกัญชาที่นำมาส่งให้ในพื้นที่ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา เพื่อส่งต่อไปยังประเทศมาเลเซีย เท่านั้น และเคยลักลอบขนกัญชาส่งไปนายทุนมาเลเซียมาแล้ว 2 ครั้ง ได้ค่าจ้างครั้งละ 15,000 บาท
