เตื่อยแจ๋ - ผู้ผลิตรถยนต์ในเวียดนามเผยว่า รถยนต์คันใหม่เอี่ยมนั้นอยู่ไกลเกินเอื้อมสำหรับผู้บริโภคที่อยู่ในกรุงฮานอย และนครโฮจิมินห์ถึง 90% เพราะอัตราภาษีที่รัฐบาลกำหนดไว้สูง
“ตลาดรถยนต์ในเวียดนามยังไม่ตอบสนองความต้องการของคนส่วนใหญ่” หนังสือพิมพ์เวียดนามเอ็กซ์เพรส อ้างคำกล่าวของ บุ่ย หงอค เฮวียน ประธานบริษัทผู้ผลิตรถยนต์เอกชน Vinaxuki กล่าวในการประชุมอุตสาหกรรมยานยนต์ที่จัดขึ้นโดยกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า
เฮวียน อ้างรายงานการสำรวจที่จัดทำขึ้นโดยบริษัทวิจัยตลาด ระบุว่า 90% ของผู้ซื้อในกรุงฮานอย และนครโฮจิมินห์ ไม่สามารถที่จะซื้อรถคันใหม่ได้เนื่องจากอัตราภาษีสูง และอธิบายว่าการเป็นเจ้าของรถคันใหม่ในเวียดนาม ผู้ซื้อต้องจ่ายภาษี และค่าธรรมเนียมหลักๆ 4 รายการ ที่ประกอบด้วย ภาษีนำเข้า ภาษีบริโภคพิเศษ ภาษีมูลค่าเพิ่ม และค่าธรรมเนียมลงทะเบียน
ภาษีและค่าธรรมเนียนเหล่านี้ทำให้ค่าใช้จ่ายในการซื้อรถยนต์เพิ่มสูงขึ้น 2-3 เท่า จากราคาดั้งเดิม เชื่อว่าภาษีดังกล่าวกำหนดขึ้นเพื่อจำกัดจำนวนรถที่วิ่งอยู่ในประเทศที่โครงสร้างพื้นฐานทางจราจรยังคงด้อยพัฒนา
เหวียน จุ่ง กวาง นักธุรกิจในนครโฮจิมินห์ ซึ่งอยู่ในกลุ่มผู้ที่สามารถซื้อรถยนต์ได้ กล่าวต่อหนังสือพิมพ์ไซ่ง่อนส่ายฝ่อง ว่า เขาตัดสินใจที่จะซื้อรถโตโยต้า แคมรี่ นำเข้าเพื่อใช้ในธุรกิจหลังไตร่ตรองถี่ถ้วนแล้ว เขาต้องจ่ายเงินประมาณ 60,000 ดอลลาร์ (กว่า 1,900,000 บาท) ซื้อรถโตโยต้า ในเวียดนาม ขณะที่ราคาในสหรัฐฯ จะอยู่ที่ 22,000 ดอลลาร์เท่านั้น โดยราคาดังกล่าวได้รวมภาษีนำเข้า ภาษีบริโภคพิเศษ ภาษีมูลค่าเพิ่ม และค่าธรรมเนียมถนน ป้ายทะเบียน และประกัน
ในสหรัฐฯ รถยนต์ BMW 760Li มีราคา 140,000 ดอลลาร์ ขณะที่ราคาเฉลี่ยในเวียดนามอยู่ที่ 318,000 ดอลลาร์ ตามรายงานของไซ่ง่อนส่ายฝ่อง และผู้ซื้อจะต้องจ่าย 61,000 ดอลลาร์ สำหรับรถโตโยต้า แคมรี่ 2.5G ที่มีราคาจำหน่ายในสหรัฐฯ ประมาณ 22,000 ดอลลาร์
นอกจากนั้น รถยนต์ในเวียดนามยังมีราคาแพงกว่าประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ไทย ตัวอย่างเช่น รถซูซูกิ สวิฟท์ ประกอบในเวียดนาม ขายในราคา 550 ล้านด่ง (ราว 26,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 830,000 บาท) แต่ในไทยขายเพียง 480,000 บาท
อย่างไรก็ตาม เวียดนามไม่ได้ติด 10 อันดับสถานที่ที่แพงที่สุดในการซื้อรถ ตามข้อมูลในเว็บล็อก Jalopnik ที่มีเนื้อหาครอบคลุมเรื่องรถยนต์ วัฒนธรรมรถ และอุตสาหกรรมยานยนต์ ที่ดำเนินการโดยบริษัท Gawker Media ในนิวยอร์ก
ในการจัดอันดับบนเว็บล็อก ระบุว่า สิงคโปร์ เป็นสถานที่ราคาสูงที่สุดในการเป็นเจ้าของรถยนต์ เนื่องจากสิงคโปร์พยายามที่จะจัดการปัญหาการจราจร ด้วยการทำให้การเป็นเจ้าของรถยนต์นั้นเป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ ส่วนสถานที่อื่นๆ ที่เหลือ คือ มาเลเซีย อินโดนีเซีย นิการากัว จีน บราซิล อังกฤษ เซนต์คิตต์แอนด์เนวิส เกาหลีเหนือ และคิวบา.