xs
xsm
sm
md
lg

ตร.ท่องเที่ยวภูเก็ตรวบไกด์เถื่อนชาวคีร์กิซ พร้อมเสนอเงินติดสินบนให้ปล่อยตัว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ตรวบไกด์เถื่อนต่างชาติชาวคีร์กิซได้คาหนังคาเขา ขณะนำเที่ยวที่จุดชมวิวสามหาด ได้พร้อมของกลางเพียบ แถมติดสินบนเจ้าหน้าที่เป็นเงิน 40,000 บาท เพื่อแลกต่อการปล่อยตัวไม่ดำเนินคดีตามกฎหมาย

เมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้ (8 พ.ย.) พ.ต.ท.บัณฑิต ขาวสุธรรม รอง ผกก.5 บก.ทท. พร้อมด้วย ร.ต.อ.เอกชัย ศิริ รอง สว.ส.ทท.2 กก.5 บก.ทท.พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายดิมิทริ พินดุยริน (DMITRII PINDIURIN) อายุ 27 ปี สัญชาติคีร์กิซ ถือหนังสือเดินทางประเทศคีร์กิซสถาน เลขที่ AC2439378 ในข้อหาประกอบธุรกิจนำเที่ยวโดยไม่ได้รับอนุญาต ทำหน้าที่เป็นมัคคุเทศก์โดยผิดกฎหมาย เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว ทำงาน (ประกอบธุรกิจนำเที่ยว, มัคคุเทศก์) โดยผิดกฎหมาย และให้ ขอให้หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าพนักงานเพื่อจูงใจให้กระทำการไม่กระทำการ หรือประวิงการกระทำอันมิชอบด้วยหน้าที่ โดยสามารถจับกุมได้เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ ขณะนี้กำลังนำนักท่องเที่ยวไปท่องเที่ยวที่จุดชมวิวสามหาด ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต

พร้อมของกลางใบแสดงการขายทัวร์ของบริษัทต่างๆ แผนประสัมพันธ์สถานที่ท่องเที่ยวของภูเก็ต ใบแสดงราคารายการนำเที่ยวสถานที่ต่างๆ เป็นภาษารัสเซีย พร้อมแสดงระบุจำนวนราคา จำนวน 1 ใบ แท็บเล็ตยี่ห้อแอปเปิล รุ่นไอแพด ซึ่งมีภาพแสดงรายการนำเที่ยวต่างๆ เพื่อใช้นำเสนอให้แก่นักท่องเที่ยว จำนวน 1 เครื่อง ธนบัตรสกุลดอลลาร์สหรัฐ ฉบับละ 100 ดอลลาร์ จำนวน 9 ฉบับ ธนบัตรรัฐบาลไทย ฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 11 ฉบับ ธนบัตรรัฐบาลไทย ฉบับละ 100 บาท จำนวน 2 ฉบับ และอื่นๆ รวม 9 รายการ

การจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวได้รับคำสั่งในการปราบปรามกวาดล้างการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ.2551 รวมทั้งนโยบายของ คสช. ซึ่งกองทัพเรือภาค 3 ได้บูรณาการการทำงานร่วมกับทุกฝ่ายรวมทั้งตำรวจท่องเที่ยว เพื่อจับกุมผู้กระทำความผิดดังกล่าวอย่างจริงจัง โดยเน้นมัคคุเทศก์ชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานโดยผิดกฎหมาย และชาวต่างชาติที่แฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยวเข้ามากระทำความผิด จึงได้ร่วมกันออกตรวจสอบที่บริเวณจุดชมวิวสามอ่าว ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยการซุ่มดูพฤติการณ์ของบุคคลต่างๆ ที่นำนักท่องเที่ยวที่เข้ามาท่องเที่ยว จนกระทั่งเมื่อเวลา 10.30 น. ของวันนี้ (8 พ.ย.) ปรากฏว่า ได้มีชายชาวต่างชาติขับขี่รถยนต์ยี่ฮอนด้า รุ่นวีออส สีขาว หมายเลขทะเบียน กพ 2835 ภูเก็ต มาจอดที่บริเวณดังกล่าว และนำนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ จำนวน 2 คน ลงมาจากรถ

หลังจากนั้น ผู้ต้องหาได้นำนักท่องเที่ยวเดินไปยังจุดชมวิว และพูดคุยแสดงท่าทาง แนะนำบรรยายให้ความรู้แก่นักท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ขอตรวจสอบ และสอบถามนักท่องเที่ยวที่มาด้วยกันทำให้ทราบว่า ผู้ต้องหาได้ขายรายการนำเที่ยวให้แก่นักท่องเที่ยวเป็นทัวร์รอบเกาะภูเก็ตเมื่อวันที่ 3 พ.ย. 2557 และพาไปท่องเที่ยวตามรายการนำเที่ยวนั้นๆ และผู้ต้องหารับว่าตนได้ทำหน้าที่ดังกล่าวจริง จึงได้ขอให้ผู้ต้องหานำตรวจค้นรถยนต์ทะเบียน กพ 2835 ภูเก็ต พบใบโฆษณาขายทัวร์อยู่ภายในรถยนต์คันดังกล่าว พร้อมกับโน้ตบุ๊ก ซึ่งผู้ต้องหายอมรับว่าได้นำใบโฆษณารายการนำเที่ยวออกเดินจำหน่ายให้แก่นักท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ในครั้งนี้ได้ไปรับนักท่องเที่ยวมาจาก โรงแรมจิราพร ฮิลล์ รีสอร์ท ถนนนาใน ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต จากนั้นจะพาไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ และนักท่องเที่ยวได้มอบหลักฐานการซื้อขายรายการนำเที่ยวระบุโปรแกรมซิตี้ทัวร์ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกด้วย

ระหว่างนั้นปรากฏว่า ผู้ต้องหาได้เข้ามาพูดคุยกับ ด.ต.สุรินทร์ พิศพรรณ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม โดยเสนอสินบนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมเป็นเงิน จำนวน 40,000 บาท เพื่อให้เจ้าหน้าที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ไม่ต้องทำการจับกุม หรือปล่อยตัวผู้ต้องหาไป โดยไม่ต้องดำเนินคดี ด.ต.สุรินทร์ จึงได้แจ้ง ร.ต.อ.เอกชัย ศิริ ทราบ ร.ต.อ.เอกชัย ศิริ และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับจึงได้วางแผนทำการล่อซื้อโดยแกล้งตอบตกลงกับผู้ต้องหา และติดตั้งอุปกรณ์บันทึกภาพวิดีโอไว้ที่บริเวณห้องชั้นล่างของ ส.ทท.2 กก.5 บก.ทท.

จากนั้นเวลาประมาณ 12.00 น. ปรากฏว่า ได้มีชายชาวต่างชาติขับขี่รถจักรยานยนต์มาพบ และนำเงินมาให้ที่ห้องชั้นล่างของ ส.ทท.2 กก.5 บก.ทท.ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการติดตั้งอุปกรณ์บันทึกภาพวิดีโอไว้ จากนั้นจึงส่งมอบเงินของกลางให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจคือ ด.ต.สุรินทร์ เมื่อ ด.ต.สุรินทร์ รับเงินดังกล่าวมาแล้ว และได้นำมามอบให้แก่ ร.ต.อ.เอกชัย ซึ่งซุ่มดูอยู่ที่บริเวณใกล้เคียง และได้ยึดเงินจำนวนดังกล่าวไว้เป็นของกลาง จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ต้องหาทราบอีกว่ากระทำความผิดฐาน “ให้ขอให้หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์ อื่นใดแก่เจ้าพนักงาน เพื่อจูงใจให้กระทำการไม่กระทำการ หรือประวิงการกระทำอันมิชอบด้วยหน้าที่” นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.กะรน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป



 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น