กระบี่ - ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีชาวบ้านร้องเรียนโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม 4 แห่ง ในพื้นที่ ปล่อยน้ำเสียลงคลองสาธารณะที่บ้านนาเหนือ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ มอบสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเข้าไปตรวจสอบ และแก้ปัญหาให้เสร็จภายใน 30 วัน
เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (7 พ.ย.) นายทรงพล สวาสดิ์ธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตำบลนาเหนือ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม จำนวน 4 แห่ง หลังถูกร้องเรียนว่ามีการปล่อยน้ำเสียลงคลอง เพื่อประชุมร่วมกับผู้นำชุมชน และชาวบ้านในพื้นที่ตำบลนาเหนือ ประกอบด้วย หมู่ที่ 1, 2, 4, 5 และหมู่ที่ 7 ที่มีแม่น้ำจากคลองสาธารณะ (คลองลาว) ไหลผ่าน โดยมีตัวแทนจากโรงงานสกัดปาล์มน้ำมันมาร่วมชี้แจงเพื่อหาข้อสรุปในการแก้ปัญหาดังกล่าว โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมประมาณ 100 คน
นายธีระ ชูเชิด หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า กรณีชาวบ้านร้องเรียนโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มปล่อยน้ำเสียลงคลองสาธารณะได้มีการร้องเรียนผ่านทางเฟซบุ๊ก ทางศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกระบี่ จึงได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ เช่น อุตสาหกรรมจังหวัดกระบี่ ปกครองจังหวัด สาธารณสุขจังหวัดกระบี่ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดกระบี่ ลงพื้นที่ตำบลนาเหนือ อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ เพื่อตรวจสอบการปล่อยน้ำเสียของโรงงาน ซึ่งพบว่า มีโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มตั้งอยู่ จำนวน 4 โรง ได้แก่ บริษัทวงบัณฑิต จำกัด บริษัท กระบี่ปาล์มออยล์ จำกัด บริษัท บีไรท์ จำกัด บริษัท สยามโมเดิ้นปาล์ม จำกัด
นายจำรัส เครือยศ ประธานสภา อบต.นาเหนือ กล่าวว่า ที่ผ่านมาพบว่าพบว่าโรงงานปาล์มทั้ง 4 แห่ง มีการลักลอบปล่อยน้ำเสียอย่างต่อเนื่อง แต่จับไม่ได้ และเคยแจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบแล้ว แต่เรื่องก็ยังเงียบหาย จนกระทั้งมีการโพสต์ภาพน้ำเสียลงบนสื่อสังคมออนไลน์อีกครั้ง เจ้าหน้าที่จึงได้เข้ามาตรวจสอบ และพบจริงเหมือนกับที่มีการโพสต์ภาพ ซึ่งตนอยากเห็นโรงงานมีความรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อมให้มาก เพราะการโรงงานมาเปิดในพื้นที่ก็ส่งผลดีต่อประชาชนได้มีงานทำ แต่อยากให้มีความรับผิดชอบมากขึ้น
หลังจากประชุมร่วมกันได้ข้อสรุปให้ทางโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มมีระบบการบำบัดที่ดีเป็นระบบมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องกลิ่นเหม็น และน้ำเสีย จึงได้มอบหมายให้อุตสาหกรรมจังหวัดเข้าไปตรวจสอบโรงงาน ให้สำนักงานสาธารณสุขตรวจสอบในเรื่องของกลิ่น ให้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดกระบี่ ดูแลในเรื่องของกฏหมายที่เกี่ยวข้องโดยเร่งด่วนแล้วรายงานให้จังหวัดทราบเพื่อแก้ปัญหาให้แก่ชาวบ้านอย่างเร่งด่วน คาดว่าไม่เกิน 30 วัน