ตรัง - ตำรวจเมืองตรัง จับได้แล้ว 3 ผู้ต้องหางัดตู้เอทีเอ็ม ธ.กรุงเทพ สาขาสิเกา กวาดเงินสด 4,600,000 บาท หลบหนีไป 2 ใน 3 สารภาพอ้างทำไปเพราะโมโหกดเงินไม่ออก ก่อนนำเงินมาใช้จ่ายจนเกลี้ยง
วันนี้ (5 พ.ย.) ที่กองบังคับการตำรวจภูธร จ.ตรัง พล.ต.ท.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ รรท.ที่ปรึกษาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.จีรวัฒน์ อุดมสุด ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ตรัง และนางจันทร์ทรีย์ แสวงทรัพย์ ผจก.ภาคใต้ 2 ธนาคารกรุงเทพ แถลงข่าวจับกุม 3 คนร้าย ที่ร่วมกันก่อเหตุงัดตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงเทพ สาขาสิเกา หน้าโรงงานศรีตรัง แอโกรอินดัสตรี หมู่ 2 ต.นาเมืองเพชร อ.สิเกา จ.ตรัง และได้ยกตู้เซฟไปทั้งหมด จำนวน 4 ตู้ พร้อมเงินสด จำนวน 4,600,000 บาท หลบหนีไปเมื่อคืนวันที่ 28 กรกฎาคม 2557 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 02.30 น.
สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ประกอบด้วย นายระพินทร์ เมืองแก้ว อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 81 ม.6 ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา จ.ตรัง นายเอกชัย ฤทธิ์ฉิม อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 106 ม.7 ต.โคกยาง อ.กันตัง จ.ตรัง และนายจีรพันธ์ ชูทิพย์ อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 104 ม.7 ต.โคกยาง อ.กันตัง จ.ตรัง พร้อมของกลางเงินสด จำนวน 1,353,000 บาท กล่องใส่เงินในตู้เอทีเอ็ม จำนวน 1 กล่อง รถจักรยานยนต์ จำนวน 3 คัน และเครื่องซักผ้า จำนวน 1 เครื่อง ซึ่งหลังเกิดเหตุผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ต่างนำเงินที่ได้ไปแบ่งกัน และแยกย้ายกันหลบหนี ดังนั้น ตำรวจภูธร จ.ตรัง จึงได้ตั้งทีมไล่ล่า นำโดย พ.ต.ท.นิรัตน์ ปานดำ ผกก.สส.ภ.จว.ตรัง
กระทั่งเมื่อคืนวันที่ 3 พฤศจิกายน 2557 เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถแกะรอยคนร้าย และตามจับกุมได้ในที่สุด โดยผู้ต้องหา จำนวน 2 คน คือ นายระพินทร์ เมืองแก้ว และนายเอกชัย ฤทธิ์ฉิม ยอมรับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุงัดตู้เอทีเอ็มจริง แต่ไม่ได้มีการวางแผนมาก่อนล่วงหน้า เพียงแค่โมโหที่กดเงินสด จำนวน 2,000 บาท ไม่ออกจากตู้ จึงเข้าไปถีบด้านหลังตู้เอทีเอ็ม และเห็นตู้เปิดอ้าออกมาอย่างง่ายดาย จึงช่วยกันงัดเอาตู้เซฟทั้ง 4 ตู้หลบหนีไป ส่วนผู้ต้องหาอีก 1 คน คือ นายจีรพันธ์ ชูทิพย์ ให้การภาคเสธ สำหรับเงินสดที่ได้ จำนวน 4.6 ล้านบาทนั้น ผู้ต้องหารับว่า แบ่งกันนำไปใช้จ่ายภายใน 3 เดือน จนหมดเกลี้ยงแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ
พล.ต.ท.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ รรท.ที่ปรึกษาสำนักงานแห่งชาติ กล่าวว่า คดีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำงานอย่างหนัก และมีการรายงานผลให้ตนทราบอย่างต่อเนื่อง พร้อมมีการตั้งรางวัลนำจับ จำนวน 100,000 บาท สำหรับผู้ที่แจ้งเบาะแส จนในที่สุดก็สามารถจับกุมคนร้ายได้ทั้งหมด นอกจากนี้ ตนยังได้สั่งให้มีการสืบสวนขยายผลต่อไปว่า มีบุคคลอื่น หรือคนในธนาคารมีส่วนรู้เห็นด้วยหรือไม่ เพราะจากที่ได้รับรายงานยังมีเงินบางส่วนหายไป และจะพยายามตามตรวจยึดคืนเงินให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ถูกตั้งข้อหาว่า ร่วมกันลักทรัพย์โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้น สำหรับคุ้มครองทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำ หรือผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือให้พ้นจากการจับกุมหรือรับของโจร โดยตำรวจจะคัดค้านการประกันตัว แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล