พังงา - พบแหล่งที่อยู่อาศัยของมนุษย์โบราณ ภายในถ้ำเข้า “พระอาตเฒ่า” ต.คลองเคียน จ.พังงา นักโบราณคดี สำนักศิลปากรที่ 15 ภูเก็ต เข้าสำรวจพบเป็นแหล่งที่มีภาพเขียนสีก่อนประวัติศาสตร์ซึ่งเป็นภาพเขียนสีที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในอ่าวพังงา รวมทั้งซากสัตว์ทะเล โดยเฉพาะเปลือกหอยนานาชนิดที่ทับถมกันสูงกว่า 2 เมตร
เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (30 ต.ค.) คณะนักโบราณคดี สำนักศิลปากรที่ 15 ภูเก็ต เจ้าหน้าที่สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดพังงา ร่วมกับผู้แทนชุมชนบ้านหินร่ม หมู่ที่ 2 ต.คลองเคียน อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา และสื่อมวลชน เดินทางไปตรวจสอบแหล่งโบราณคดีเขาพระอาตเฒ่า ซึ่งอยู่ห่างจากฝั่งท่าเรือบ้านหินร่ม ประมาณ 1 กิโลเมตร ซึ่งเป็นแหล่งอยู่อาศัยของมนุษย์ในยุคโบราณ ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยสัตว์ทะเลนานาชนิด โดยคณะนักโบราณคดีได้พบซากหอยชนิดต่างๆ จำนวนมากที่ตายทับถมกันสูงกว่า 2 เมตร บางส่วนเริ่มย่อยสลายกลายเป็นขี้เถ้า มีทั้งซากหอยแครง หอยแว่น หอยหลักควาย และหอยนางรม นอกจากนี้ ยังพบซากกระดูกมนุษย์โบราณซึ่งมีอายุเก่าแก่ แตกกระจัดกระจายอยู่ทั่วบริเวณ กระดูกบางชิ้นเริ่มกลายเป็นหิน
นายภานุวัฒน์ เอื้อสามาลย์ นักโบราณคดีชำนาญการ ระบุว่า กระดูกที่พบเป็นกระดูกมนุษย์ที่เก่าแก่มาก ส่วนจะมีอายุเท่าไหร่จะต้องเก็บตัวอย่างกระดูกไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง กระดูกบางส่วนกองอยู่ใต้หินที่ใช้เวลาก่อตัวหลายร้อยปี จึงเป็นข้อบ่งชี้ได้ว่า กระดูกมีอายุเก่าแก่กว่าหินที่มากองทับถม ขณะที่ชิ้นส่วนกระดูกอีกจำนวนมากกองอยู่กระจัดกระจาย และแตกหัก สันนิษฐานว่า อาจถูกขุดคุ้ยขึ้นมาโดยฝีมือมนุษย์ในยุคหลังๆ จึงเชื่อว่าบริเวณเขาพระอาตเฒ่า จะเป็นแหล่งอยู่อาศัยของมนุษย์ในยุคโบราณ เพราะในบริเวณใกล้เคียงกันยังพบภาพเขียนสีโบราณ ลักษณะลายเส้น หรือสีที่ใช้เขียนเป็นยางไม้ผสมกับเลือดสัตว์บางชนิด มีลักษณะและอายุใกล้เคียงกับภาพเขียนสีที่พบที่เขาเขียนอ่าวพังงา และที่ถ้ำผีหัวโต จ.กระบี่ แต่ขนาดของภาพใหญ่กว่าที่เคยพบในแหล่งอื่นๆ
ขณะที่ นายสายันห์ หัสนัย อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18/2 ม.2 ต.คลองเคียน อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา อาชีพมัคคุเทศก์ท้องถิ่น เปิดเผยว่า จากคำบอกเล่าของปู่ย่าตายาย ยืนยันว่า บริเวณเขาพระอาตเฒ่านี้เคยมีมนุษย์อยู่อาศัยมาตั้งแต่ครั้งโบราณ และมีนักแสวงโชคแอบขึ้นมาขุดค้นหาสมบัติ และของมีค่าอยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากมีลายแทงปริศนาระบุว่า “เข้าสามศอก ออกสามวา ใครได้มากินไม่หมด” โดยที่หลายคนตีความหมายว่า ที่เขาพระอาตเฒ่าแห่งนี้มีสมบัติล้ำค่าอยู่จำนวนมาก แต่จนขณะนี้ก็ยังไม่เคยมีผู้ใดพบเห็น หรือได้ร่องรอยเกี่ยวกับขุมทรัพย์แห่งนี้เลย ทำให้ผู้นำท้องถิ่นเริ่มเห็นความสำคัญพยายามหาทางป้องกันไม่ให้บุคคลใดบุกรุกขุดหาสมบัติอีกต่อไป เนื่องจากเป็นการทำลายแหล่งโบราณคดีที่สำคัญ และเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งของจังหวัดพังงา ทั้งยังเตรียมพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ในอนาคตด้วย