ตรัง - ชาวเขาไม้แก้ว ต.ทุ่งค่าย อ.ย่านตาขาว แห่กันไปมุงดูปลาไหลทองยักษ์ ขนาดยาวกว่า 2 ฟุต หลังเลื้อยขึ้นมาจากหนองน้ำ ด้าน ผอ.ประมงน้ำจืดตรัง ชี้เกิดจากความปกติของยีน และพบได้ไม่ยาก ด้านชาวบ้านผู้พบปลาไหลยักษ์เผยก่อนเจอผลเซียมซีบอกจะได้โชคลาภก้อนใหญ่
วันนี้ (28 ต.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านหมู่ที่ 4 บ้านเขาไม้แก้ว ตำบลทุ่งค่าย อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง ว่า มีการพบ “ปลาไหลทองยักษ์” และมีผู้คนที่ทราบข่าวมุงดูกันเป็นจำนวนมาก เมื่อเดินทางไปตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 111 ซึ่งมี นายจิตร เพ็งเผา อายุ 67 ปี เป็นเจ้าของบ้าน ก็พบกับปลาไหลสีทอง ขนาดยาวประมาณ 2 ฟุตครึ่ง ซึ่งถูกนำมาเลี้ยงไว้ภายในกะละมังพลาสติกสีดำ โดยด้านหน้ามีการนำธูปเทียนมาจุดกราบไหว้บูชา และมีชาวบ้านทุกวัยมานั่งห้อมล้อมกัน พร้อมทั้งใช้มือลูบคลำตามลำตัวปลาไหล ตลอดจนถ่ายภาพเป็นที่ระลึก จนทำให้บรรยากาศที่หน้าบ้านดังกล่าวเกิดความคึกคักเป็นอย่างมาก
นางจิดาภา เพ็งเผา อายุ 41 ปี ผู้ที่พบปลาไหลทองยักษ์ตัวนี้ กล่าวว่า ก่อนหน้านั้น เมื่อช่วยสายของวันที่ 27 ตุลาคมที่ผ่านมา ตนได้เดินทางไปกราบไหว้องค์ศักดิ์สิทธิ์ ที่ศาลเจ้าท่ามก่งเยี่ย ศาลเจ้าชื่อดังแห่งหนึ่งของจังหวัดตรัง เพื่อขอพรให้ทำกิจการเจริญรุ่งเรือง ก่อนที่จะเดินทางกลับกรุงเทพฯ และเมื่อทำการเสี่ยงใบเซียมซี ก็บอกว่า ตนจะได้โชคลาภก้อนใหญ่ในเร็วๆ นี้ กระทั่งเมื่อมาถึงช่วงดึกของวันเดียวกัน ขณะที่กำลังนั่งอยู่หน้าบ้าน และมีฝนตกลงมาอย่างหนัก จู่ๆ ก็เห็นสิ่งมีชีวิตที่มีสีแวววาวอยู่ในหนองข้างบ้าน ก่อนจะเคลื่อนตัวขึ้นมาจากน้ำอย่างรวดเร็ว เมื่อชักชวนสามีเดินไปดูก็พบว่า เป็นปลาไหลสีทอง จึงจับขึ้นมาเลี้ยงไว้ดังกล่าว
นางจิดาภา กล่าวอีกว่า ปกติปลาไหลทั่วไปตามธรรมชาติจะมีสีดำอมน้ำตาล และบางครั้งอาจจะพบเห็นเป็นสีเผือกบ้าง แต่ที่จะพบเป็นสีทองมีน้อยมาก ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลทางกูเกิล พบปลาไหลสีทองในประเทศไทยแค่ 2 ตัวเท่านั้น คือ ที่จังหวัดอ่างทอง กับเชียงใหม่ ขณะเดียวกัน ปลาไหลสีทองตัวนี้ยังมีขนาดใหญ่ และยาวมาก รวมทั้งยังมีผิวที่นิ่มกว่าปลาไหลทั่วไป มีแก้มโปนออกมาเห็นชัดเจน และมีดวงตาสีดำเข้มด้วย นับเป็นความแปลกประหลาดอย่างมาก จึงอยากจะเลี้ยงเอาไว้แบบนี้จนถึงที่สุด ถึงแม้ล่าสุดจะมีผู้มาติดต่อขอซื้อในราคาถึง 5 หมื่นบาท แต่ตนก็จะไม่ยอมขายอย่างเด็ดขาด เพราะถือเป็นสิ่งที่เป็นมงคลของครอบครัว
ด้าน นายอนันต์ สี่หิรัญวงศ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดตรัง กล่าวว่า ปลาน้ำจืดชนิดไม่มีเกล็ด จะเกิดความผิดปกติของยีน หรือที่เรียกกว่า เกิดการผ่าเหล่าได้ง่ายกว่าปลาน้ำจืดชนิดไม่มีเกล็ด เหมือนอย่างเช่นปลาไหล ซึ่งเคยพบเห็นเป็นสีเผือก หรือสีทองมาบ้างแล้ว และตามธรรมชาติจะมีโอกาสเกิดขึ้นแบบนี้ได้ประมาณ 5-10% ดังนั้น ทางวิชาการจึงไม่ใช่เรื่องที่แปลกประหลาดอะไร แต่สำหรับชาวบ้านที่นานๆ จะเจอปลาไหลสีทอง จึงแห่กันไปมุงดูด้วยความตื่นเต้น ทั้งนี้ ผู้ที่พบสามารถนำปลาไหลตัวนี้ไปเลี้ยงในตู้ปลาได้โดยให้อาหารสด เช่น เนื้อปลา เนื้อหอย เพียงแต่ต้องระวังเรื่องน้ำเสียเท่านั้น