ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ตำรวจ สภ.ทุ่งทอง จ.ภูเก็ต จับกุมแก๊งต่างชาติค้าโคเคน และกัญชาในแหล่งเที่ยว ได้ผู้ต้องหาเป็นต่างชาติ 3 คน ทั้งฝรั่งเศสและไนจีเรีย หญิงไทยอีก 3 คน พร้อมของกลางโคเคนกว่า 313 กรัม มูลค่า 1 ล้านบาท ซุกซ่อนอยู่ในเครื่องสำรองไฟ ปปส.เผยต่างชาติเริ่มใช้ภูเก็ตเป็นจุดกระจายยาเสพติดให้นักท่องเที่ยว และคนต่างชาติ หลังมีการกวดขันจับกุมอย่างหนักในกรุงเทพฯ
เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (26 ต.ค.) พล.ต.ต.พชร บุญญสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.อ.วินิจ ศิริชัย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.ฐิติรัฐ อาญากิจ ผู้กำกับการ สภ.ทุ่งทอง พ.ต.อ.ฉัตรชัย ศิริทรัพย์ รอง ผบก.ปส.4 บช.ปส.และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม สภ.ทุ่งทอง ร่วมกันแถลงข่าวการจับกลุ่มแก๊งค้าเสพติดชาวต่างชาติได้ผู้ต้องหา 6 คน คนต่างชาติ 3 คน และสาวไทยอีก 3 คน พร้อมของกลางยาเสพติด ประเภทโคนเคน น้ำหนัก 313 กรัม มูลค่าเกือบ 1 ล้านบาท และกัญชาอีกจำนวนหนึ่ง ได้ที่บ้านเลขที่ 116/21 หมู่บ้านสบายวิลเลจ กะทู้ ซอย 6 ม.4 ต.กะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ประกอบด้วย
1.นายเจเรมี่ อเล็กซานเดอร์ วิกเตอร์ พีราด อายุ 26 ปี สัญชาติฝรั่งเศส ถือหนังสือเดินทางเลขที่ 11cc484693 พร้อมโคเคน จำนวน 30 ก้อน น้ำหนักก้อนละ 10 กรัมเศษ น้ำหนักรวม 313.09 กรัม แจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคเคน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย 2.นายแม็กซิม เฟอร์รานเดส อายุ 23 ปี สัญชาติฝรั่งเศส ถือหนังสือเดินทางเลขที่ 14da55545 พร้อมกัญชาผสมยาเส้น น้ำหนัก 0.62 หลัง แจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครอง
3.นางสาวสิรินญา ปิดตาระเต อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 152 ม.6 ต.พรสำราญ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ พร้อมกัญชา น้ำหนัก 0.741 กรัม แจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครอง 4.นางสาววิกานดา งามประเสริฐ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 195 ม.1 ต.ทัพทัน อ.ทัพทัน จ.อุทัยธานี พร้อมกัญชา น้ำหนักประมาณ 0.69 กรัม แจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครอง ทั้งสองราย
5.นายโอชิโอมา ดีแคลน อิวาโคลอม อายุ 30 ปี สัญชาติไนจีเรีย ถือหนังสือเดินทางเลขที่ A03691574 และ 6.นางสาวส่งศรี คำศรี อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12 ม.7 ต.หนองนาก อ.หนองแดง จ.สระบุรี พร้อมโคเคน 2 ก้อน น้ำหนัก 20 กรัม แจ้งข้อหากทั้งสองว่า ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคเคน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย
โดยจับกุมได้เมื่อวันที่ 25 ต.ค.57 เวลาประมาณ 01.40 น.จากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทุ่งทอง ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า ที่บ้านเลขที่ 116/21 หมู่บ้านอยู่สบายวิลเลจ กะทู้ ต.กะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต มีเหตุทะเลาะวิวาท หลังได้รับแจ้งร้อยเวร 20 และชุดสืบสวน จึงได้ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไปพบนายเจเรมี่ อเล็กซานเดอร์ วิกเตอร์ พีราด กับพวก 4 คน อยู่ในบ้านหลังดังกล่าว โดยนายแม็กซิม เฟอร์รานเดส หนึ่งในผู้ต้องหาเมื่อเห็นตำรวจได้ทิ้งก้นบุหรี่ลงบนพื้นห้อง ส่วนนายเจเรมี่ฯ ท่าทางมีพิรุธได้วิ่งขึ้นไปชั้นสองของบ้านแล้วถือเครื่องสำรองไฟไปซุกซ่อนในตู้เสื้อผ้า เจ้าหน้าที่จึงได้ติดตามไปตรวจสอบพบโคเคนจำนวน 30 ก้อน อยู่ในเครื่องสำรองไฟ และตรวจสอบผู้หญิงไทยทั้งสองคนพบมีกัญชาอยู่ในครอบครองทั้งสอง 2 คน จึงได้จับกุมต่อผู้ต้องหาทั้ง 4 คน
หลังจากนั้นทางตำรวจ สภ.ทุ่งทอง จึงได้ประสานกับ นปส.ภูเก็ต สามารถขยายผลทำการจับผู้ต้องหาได้เพิ่มอีก 2 คน คือ นายโอชิโอมา ดีแคลน อิวาโคลอม พร้อมโคเคน 1 ก้อน ล่อซื้อจากนางสาวส่งศรี คำศรี ได้ที่บริเวณสามแยกตลาดบ้านซ่าน ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต พร้อมโคเคน 1 ก้อน และขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังขยายผลตามจับกุมชาวไนจีเรียอีกหนึ่งคนที่อยู่ในเครือข่ายนี้
พล.ต.ต.พชร บุญญสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การจับกุมในครั้งนี้เป็นการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดที่เป็นเครือข่ายของชาวต่างชาติ โดยมีคนไนจีเรียเป็นเครือข่ายส่งยาและขายยาให้กับคนต่างชาติในภูเก็ต เพราะจากการจับกุมได้จะเห็นว่ามีทั้งถุงแบ่งยาและเครื่องชั่งน้ำหนัก โดยจะมีคนนำโคนเคนมาให้อีกต่อหนึ่ง หลังจากนั้นกลุ่มนี้ก็จะส่งเครือข่ายน้ำไปขายตามแหล่งท่องเที่ยวของภูเก็ต ซึ่งทางตำรวจจะมีการขยายผลจับกุมต่อไป
ผู้บังคับการตำรวจภูธรภูเก็ต กล่าวอีกว่า โคเคนที่จับได้มีลักษณะเป็นก้อนเล็กๆ จากประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมา โคเคนดังกล่าวน่าที่จะกลื่นเข้าไปในท้องจากต้นตอเพื่อหลบหนีการจับกุมและถ่ายออกมาเมื่อมาถึงจุดหมายปลายทาง
พ.ต.อ.ฉัตรชัย ศิริทรัพย์ รอง ผบก.ปส.4 บช.ปส ระบุว่า พฤติกรรมของเครือข่ายค้ายาเสพติดกลุ่มนี้ เป็นเครือข่ายของคนต่างชาติไนจีเรีย เพราะจากการล่อซื้อทางโทรศัพท์มีเบอร์ที่สามารถติดต่อได้ และสามารถล่อซื้อได้ โดยขณะนี้ทาง ปปส.กำลังติดตามเพื่อนของผู้ต้องหาชาวไนจีเรียอีก 1 ราย ที่ยังไม่มารับยาตามที่ได้ล่อซื้อ และจะต้องสืบสวนให้ทราบว่ายาที่นำมาให้เครือข่ายจำหน่ายนั้นมาจากไหนและเป็นเครือข่ายอย่างไร
โดยจะมีเครือข่ายยาเสพติดต่างชาตินำยาเสพติดประเภทโคเคนมาจำหน่ายในภูเก็ตนั้น เป็นเครือข่ายเดียวกับคนสีผิวที่ก่อนหน้านี้เคยดำเนินการอยู่ที่กรุงเทพฯ แต่เมื่อมีการจับกุมอย่างหนัก ทั้งที่สนามบินสุวรรณภูมิและแหล่งท่องเที่ยวยามค่ำคืนของกรุงเทพฯ ทำให้เครือข่ายนี้หันมาค้ายาเสพติดในกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ภูเก็ต ซึ่งยาเสพติดที่นำมาจำหน่ายจะนำมาผ่านทางสนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินภูเก็ต หรือไม่ก็ทางด่านประเทศมาเลเซีย ข้ามมายังภูเก็ตหรือไปต่อที่กรุงเทพแล้วค่อยย้อนกลับมา หลังจากนั้นก็จะมีคนที่นำยาเสพติดดังกล่าวไปกระจายให้กับเครือขายนำไปขายยังแหล่งท่องเที่ยวของภูเก็ต โดยเฉพาะตามซอยบางลา หรือชุมชนที่มีชาวต่างชาติอาศัยอยู่จำนวนมาก โดยคนกลุ่มนี้จะใช้ผู้หญิงไทยที่อยู่ตามบาร์ต่างๆเป็นคนดำเนินการในเรื่องของการเช่าบ้าน โดยจะไม่เช่าบ้านเอง และจะไม่เช่าบ้านอยู่ในแหล่งที่ปล่อยยา แต่จะเช่าบ้านอยู่ด้านนอกๆ เช่น กมลา หรือ กะทู้ เป็นหลัก และจะนำยาเสพติดไปจำหน่ายตามแหล่งบันเทิงในซอยบางลา หรือย่านชุมชนที่มีคนต่างชาติอยู่จำนวนมากในช่วงค่ำ
“การตามจับกลุ่มคนต่างชาติที่ค้ายาเสพติดในแหล่งท่องเที่ยวดำเนินการได้ยากลำบากมาก กลุ่มนี้จะไม่ขายยาให้กับคนไทยเด็ดขาด จะขายให้เฉพาะคนต่างชาติเท่านั้น และที่ภูเก็ตไม่ใช้เครือข่ายใหญ่แต่จะเป็นจุดของการกระจายยาเสพติดสู่นักท่องเที่ยวมากกว่า” พ.ต.อ.ฉัตรชัย กล่าวในที่สุด