นราธิวาส - ศาลจังหวัดนราธิวาส ร่วมกับ ธ.อิสลามแห่งประเทศไทย จัดโครงการร่วมใจไกล่เกลี่ยข้อพิพาทก่อนฟ้อง เพื่อลดจำนวนคดีที่จะขึ้นสู่ชั้นศาล ช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุไม่สงบ ลดหนี้สินเกษตรกรหลังเจอวิกฤตปัญหาราคายางพาราตกต่ำ ตามแนวทางพระราชดำริ “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา”
วันนี้ (21 ต.ค.) ที่บริเวณหน้าอาคารศาลจังหวัดนราธิวาส อ.เมือง จ.นราธิวาส นายเฉลิมชัย ศรีเลิศชัยพาณิช อธิบดีผู้พิพากษาภาค 9 เป็นประธานเปิดโครงการร่วมใจไกล่เกลี่ยข้อพิพาทก่อนฟ้องดำเนินคดีต่อศาล จ.นราธิวาส โดยศาลจังหวัดนราธิวาส ร่วมกับธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) จัดขึ้น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของลูกค้าให้สามารถปลดหนี้ หรือลดภาระหนี้ลงได้ด้วยความสะดวก รวดเร็ว และเป็นธรรม โดยมี นายรวิภัทร โชคเจริญเลิศ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดนราธิวาส นายซาฟีอีร์ เจ๊ะเล๊าะ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส ส่วนราชการ แขกผู้มีเกียรติ รวมทั้งลูกค้าของธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย จำนวน 1,000 คน เข้าร่วมในพิธีเปิด ซึ่งได้จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 21-22 ตุลาคม 2557 นี้
ร.ท.สุรกำพล อดุลยรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งรับผิดชอบในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า การจัดกิจกรรมดังกล่าว สืบเนื่องจากธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) เป็นสถาบันการเงิน ดำเนินการสนับสนุนด้านการเงินตามนโยบายรัฐบาลในการส่งเสริมความเป็นอยู่ของประชาชนผู้มีรายได้น้อยในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อนำไปประกอบอาชีพให้มีชีวิตที่ดีขึ้น
แต่เนื่องจากปัจจุบันภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ค่าครองชีพสูงขึ้น ราคายางพาราตกต่ำ และจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ ส่งผลให้ลูกค้าบางรายของธนาคารมีขีดความสามารถในการชำระหนี้ลดลง หรือมีรายได้ไม่เพียงพอสำหรับชำระหนี้ได้ตามกำหนด ไอแบงก์ จึงได้จัดโครงการนี้ขึ้นเพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ และเพื่อตามแนวทางพระราชดำริ เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา จากการจัดโครงการในวันนี้มีลูกค้าที่เข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 3,007 คน
นอกจากนี้ โครงการร่วมใจไกล่เกลี่ยก่อนฟ้องศาล ได้ดำเนินการในจังหวัดอื่นแล้วดังนี้ เมื่อวันที่ 19-22 กันยายน 2557 จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2557 จังหวัดสตูล เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2557 จังหวัดยะลา และเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2557 จังหวัดปัตตานี