นครศรีธรรมราช - นกบินเข้ากลีบใบพัดเครื่องบิน “แอร์เอเชีย” เส้นทางดอนเมือง-นครศรีฯ ซึ่งนักบินได้สั่งการตรวจระบบความปลอดภัยเครื่องขั้นสูงสุด ส่งผลให้เครื่องล่าช้าไปกว่า 2 ชั่วโมง ด้าน ผอ.ท่าอากาศยานนครศรีฯ เผยระหว่างบินไม่มีเหตุการณ์ผิดปกติ แจงเป็นเหตุสุดวิสัยที่อาจเกิดขึ้นได้
วันนี้ (16 ต.ค.) ที่ จ.นครศรีธรรมราช ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมาได้เกิดเหตุนกบินชนกับเครื่องบินของสายการบินแอร์เอเชีย ซึ่งเป็นเครื่องบินแอร์บัส เอ 320 ลำใหม่เอี่ยมบินตรงจากท่าอากาศยานดอนเมือง มายังท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช เที่ยวบินเอฟดี-3188 ซึ่งหลังจากร่อนลงจอดแล้วจะเปลี่ยนไฟลต์เป็น เอฟดี -3189 นครศรีธรรมราช-กรุงเทพฯ ในเวลา 08.30 น.ปรากฏว่า หลังจากที่ร่อนลงจอดส่งผู้โดยสารเข้าสู่อาการผู้โดยสารขาเข้าเรียบร้อย เจ้าหน้าที่ภาคพื้นดิน และเจ้าหน้าที่เทคนิคได้ตรวจสอบความเรียบร้อยของอากาศยานก่อนที่จะขึ้นบินตามปกติ พบร่องรอยของขนนกจำนวนหนึ่งติดอยู่กับกลีบใบพัดเครื่องยนต์เจ็ต แต่ไม่มีร่องรอยความเสียหายของกลีบใบพัด และไม่มีความเสียหายในส่วนอื่นๆ ขณะที่นักบินได้ตัดสินใจตรวจสอบความปลอดภัยขั้นสูงสุด โดยรอให้วิศวกรเข้าตรวจสอบความปลอดภัยก่อนที่จะบินขึ่นอีกครั้ง โดยช้าไปกว่ากำหนดเกือบ 2 ชั่วโมง
นายกิตติชัย สัจจลักษณ์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ตนเองได้เดินทางกลับจากกรุงเทพฯ อยู่บนเที่ยวบินนี้ด้วย ตลอดเวลาอยู่บนเครื่องบินไม่มีเหตุการณ์ใดผิดปกติ จนเมื่อเครื่องลงจอดเรียบร้อย ช่างภาคพื้น และเจ้าหน้าที่เทคนิคตรวจสอบความเรียบร้อยจึงพบขนนก ส่วนซากนกนั้นแรงอัดกำลังเจ็ตได้อัดผ่านระบบไอพ่นไม่เหลืออยู่เลย และตรวจเบื้องต้นไม่พบร่องรอยความเสียหาย แต่ด้วยมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดจึงต้องรอให้มีการตรวจสอบก่อนขึ้นบินอีกครั้งโดยไม่มีปัญหาใดๆ
“ส่วนของท่าอากาศยานนั้นมีมาตรการในความปลอดภัยเรื่องนี้อยู่แล้ว ก่อนเครื่องบินขึ้นลงทุก 15 นาที จะมีเจ้าหน้าที่ออกไล่นก รวมทั้งการดำเนินการปรับพื้นที่ควบคุมแหล่งที่อยู่อาศัยของนก ซึ่งกรณีนี้เป็นเรื่องสุดวิสัย เนื่องจากเราไม่สามารถรู้เลยว่านกจะมาในทิศทางไหน” ผู้อำนวยการท่าอากศยานนครศรีธรรมราช กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในรอบปีที่ผ่านมามีกรณีเครื่องบินของสายการบินแอร์เอเชีย และสายการบินนกแอร์ เกิดเหตุสุดวิสัยชนกับนก และถูกเครื่องยนต์เจ็ตดูดนกเข้าไปแล้วอย่างน้อย 4 ครั้ง ส่งผลให้ต้องตรวจสอบความเสียหายอย่างละเอียด