xs
xsm
sm
md
lg

ผู้การใหม่เข้าภูเก็ตยันไม่หนักใจเน้นดูแลความปลอดภัยประชาชน-นักท่องเที่ยว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตคนใหม่ ย้ำดูแลความปลอดภัยประชาชน และนักท่องเที่ยวเป็นหลัก เพื่อสร้างความชื่อมั่นในมาตรการการรักษาความปลอดภัย พร้อมเพิ่มกล้องวงจรปิด กำลังอาสาสมัครเสริมช่วยดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ ขณะที่นักท่องเที่ยวที่มีพฤติกรรมไม่ดีพร้อมจัดการขั้นเด็ดขาดอย่างแน่นอน

วันนี้ (2 ต.ค.) พล.ต.ต.พชร บุญญสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวต่อผู้สื่อข่าวก่อนเข้าสักการะศาลหลักเมือง จ.ภูเก็ต และสักการะอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร เกี่ยวกับการบริหารงานในโอกาสที่มารับตำแหน่งที่ จ.ภูเก็ต ว่า ในการทำงานนั้นจะให้ความสำคัญเรื่องของการดูแลความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินให้แก่ประชาชน และนักท่องเที่ยว เป็นหลัก โดยเฉพาะความเดือดร้อนพื้นฐาน เช่น ปัญหาการชิงทรัพย์ ลักทรัพย์ ส่วนเรื่องของการดูแลความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวนั้นจะต้องทำให้นักท่องเที่ยวเที่ยวในภูเก็ตอยู่ได้อย่างมีความสุข และเชื่อมั่นในการดูแลความปลอดภัยของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อนักท่องเที่ยว สามารถท่องเที่ยวได้อย่างมีความสุข เขาก็จะไปบอกต่อ หากเราสามารถดูแลเขาได้ดี เศรษฐกิจของภูเก็ตก็จะดีตามไปด้วย เพราะความสวยงามของธรรมชาติเรามีอยู่แล้ว แต่เรื่องความปลอดภัยเราต้องสร้างให้เกิดขึ้น

พล.ต.ต.พชร กล่าวอีกว่า ในการดูแลความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวนั้นจะ เน้นในเรื่องของเซฟตี้โซน เช่น การติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มขึ้นในจุดต่างๆ เพราะกล้องวงจรปิดนั้นมีประโยชน์อย่างมาก ซึ่งจะต้องมาตรวจสอบว่ากล้องวงจรปิดที่มีอยู่นั้นมีเพียงพอหรือไม่ และจะต้องเสริมจุดไหนเพิ่มเติม ซึ่งในส่วนของตำรวจเองคงไม่สามารถติดตั้งได้เองทั้งหมด ซึ่งจะต้องขอความร่วมมือจากร้านค้า และประชาชนในพื้นที่ที่ได้มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดอยู่แล้วให้หันกล้องออกมาด้านนอกถนนด้วย เพื่อช่วยเสริม

นอกจากนี้ ก็จะให้ตำรวจเปิดจุดรับบริการนักท่องเที่ยวขึ้นโดยเฉพาะ และอาจจะมีกำลังอาสาสมัครมาช่วยดูแลนักท่องเที่ยวอีกส่วนหนึ่ง เหมือนที่ในต่างประเทศทำกัน ซึ่งในต่างประเทศจะมีอาสาสมัครมาคอยช่วยบอกเส้นทาง หรือดูแลความปลอดภัย เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันในส่วนของภูเก็ตก็มีกำลังอาสาสมัครตำรวจช่วยดูแลอยู่แล้ว แต่จะเพิ่มจำนวนให้มากขึ้น เพื่อมาเสริมการดุแลความปลอดภัย ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะทำให้นักท่องเที่ยวมีความมั่นใจมากขึ้น ส่วนกรณีของกำลังพลที่มีไม่เพียงพอก็จะนำเอาอาสาสมัครมาช่วยดังที่ได้กล่าวไปแล้ว รวมถึงอาสาตำรวจบ้าน โดยในการทำงานแต่ละจุดอาจจะมีอาสาฯ 5-7 คน และมีตำรวจเป็นพี่เลี้ยง 1 คน

อย่างไรก็ตาม ในการทำงานตนจะต้องใช้ประชาชนเป็นศูนย์กลาง และตำรวจเป็นส่วนเสริม ขณะเดียวกัน ก็ต้องดูแลเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มีใจในการที่จะดูแลพี่ประชาชนในการพิทักษ์สันติราษฎร์ โดยจะทำให้ตำรวจทำงานอย่างมีความสุข โดยตนในฐานะผู้บังคับการ และรองผู้บังคับการทุกท่านมีหน้าที่ในการที่จะดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา และครอบครัวให้มีสวัสดิการที่ดี เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมีความสุข ก็จะทำการปฏิบัติงานดูแลประชาชนดีตามไปด้วย

พล.ต.ต.พชร กล่าวอีกว่า สำหรับการติดตามความคืบหน้าของคดีต่างๆ ที่เกิดขึ้นในจังหวัดภูเก็ต นั้น ตนพร้อมที่จะเดินหน้าต่อ จะมีการเร่งรัดทั้งหมด ทั้งที่มีหมายจับไว้แล้ว หรือคดีที่เกี่ยวกับผู้มีอิทธิพลซึ่งยังค้างคาอยู่ ซึ่งจะได้พูดคุยกับทางรองผู้การฯ และทีมที่รับผิดชอบ ซึ่งการทำงานนั้นจะต้องเดินไปทั้งระบบ ทั้งการป้องกัน ปราบปรามอาชญากรรม การพิทักษ์ทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน คดีอาญา เรื่องการจราจร และอื่นๆ ซึ่งต้องดำเนินการทั้งหมด รวมถึงการสานต่อการปราบปรามมาเฟียแท็กซี่ และการจัดระเบียบชายหาด รับรองว่าเรียบร้อยแน่นอน ซึ่งก็เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลนักท่องเที่ยว

อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต.พชร ยังได้กล่าวถึงการมารับตำแหน่งที่ภูเก็ต ว่า การมารับตำแหน่งในครั้งนี้ก็ไม่มีปัญหาอะไรหนักใจ เพราะเป็นงานของการดูแลความปลอดภัย และความสงบเรียบร้อยของพี่น้องประชาชนทั่วไป แต่ของภูเก็ตมีความพิเศษตรงที่ภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยว จึงต้องเพิ่มความเข้มการดูแลนักท่องเที่ยวให้มากขึ้น เพราะนักท่องเที่ยวเป็นคนที่นำรายได้เข้ามาให้ จึงจำเป็นที่จะต้องทำให้นักท่องเที่ยวมีความรู้สึกปลอดภัย และมีความสุข เพื่อเขาจะได้บอกต่อ ซึ่งคนภูเก็ตก็จะได้ประโยชน์ เศรษฐกิจดี รวมถึงภาพรวมของประเทศก็ดีตามไปด้วย ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ให้นโยบายและเน้นย้ำมาแล้ว ในการที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยวนั้น จะทำให้เห็น โดยเริ่มจากตำรวจก่อน และคิดว่านักท่องเที่ยวมีความเชื่อมั่นอยู่พอสมควรแล้ว

พล.ต.ต.พชร กล่าวต่อไปถึงกรณีชาวต่างชาติที่เข้ามาสร้างความเดือดร้อน และทำผิดกฎหมาย ว่า ในส่วนกรณีของกลุ่มชาวต่างชาตินั้นกรณีที่มาสร้างความเดือดร้อน หรือทำผิดกฎหมายก็จะต้องเข้าไปจัดการ แต่หากทำมาหากินโดยบริสุทธิ์ ไม่ทำผิดกฎหมายก็จะต้องดูแล ส่วนการเปิดให้บริการของสถานบริการต่างๆ นั้น คงต้องดูนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่า ให้ดำเนินการอย่างไร เพราะภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวซึ่งจะมีสภาพที่แตกต่างจากจังหวัดทั่วไป ซึ่งต้องตามสภาพ และเมื่อทำงานแล้วก็จะต้องมีการสื่อสารออกไปให้คนทั่วไปได้รับรู้ด้วย
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น