ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ด้วยพระเมตตาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มอบรางวัลโรงเรียนพระราชทานแก่ “โรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย” ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น เพื่อให้เกิดการพัฒนามาตรฐานการศึกษา พร้อมกราบขอพระราชทานนามหอสมุด นามว่า “หอสมุดเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี”
รางวัลพระราชทาน เกิดขึ้นจากน้ำพระทัยอันเปี่ยมด้วยพระเมตตาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีสายพระเนตรที่ยาวไกล ทรงให้ความสำคัญต่อการพัฒนาพลเมืองให้มีคุณภาพด้วยการให้การศึกษา ทรงมีพระราชปรารภว่า มีโรงเรียนที่จัดการศึกษาดี จนนักเรียนได้รับผลการเรียนดีเป็นส่วนรวม โรงเรียนที่มีคุณสมบัติดังกล่าว ควรจะได้รางวัลพระราชทาน และทรงยินดีพระราชทานรางวัลให้ กระทรวงนำพระราชปรารภ มาพิจารณาดำเนินการด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น และถือเป็นภารกิจสำคัญที่ปฏิบัติสืบมาจนถึงทุกวันนี้ เพราะเนื่องจากเป็นโอกาสดีที่สามารถสนองพระราชปรารภของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แล้ว รางวัลพระราชทานเป็นเครื่องกระตุ้นให้เกิดการพัฒนามาตรฐานคุณภาพการศึกษาของชาติให้ดียิ่งขึ้น สถานศึกษาที่ผ่านต้องมีสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความยอดเยี่ยมอย่างโดดเด่นได้อย่างชัดเจนและดีจริง
เมื่อ ดร.พิมพ์มาส รังสรรค์สฤษดิ์ มาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย ได้ทราบข้อมูลจากคุณครูว่า “ผืนแผ่นดินแห่งนี้ ในปี พ.ศ.2502 โรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย เป็นสถานที่ที่ประชาชนชาวหาดใหญ่ได้รับเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในการเสด็จภาคใต้ครั้งแรก ถือว่าทั้งสองพระองค์ได้ประทับรอยพระบาทไว้ ชาวหาดใหญ่วิทยาลัยทุกคนจดจำจารึก สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณยิ่งนัก เป็นมิ่งมหามงคลอันสูงสุด ถือเป็นเกียรติศักดิ์ เกียรติภูมิ และสิริมงคลอันสูงยิ่ง พร้อมน้อมนำพระมหากรุณาธิคุณปกเกล้าปกกระหม่อม” จึงตั้งปณิธานว่าจะต้องปฏิบัติตน ปฏิบัติงาน สร้างสรรค์ผลงาน การบริหารจัดการศึกษาให้เกิดคุณภาพสูงสุด เพื่อสนองเบื้องพระยุคลบาท “โรงเรียนรางวัลพระราชทาน” จึงเป็นเป้าหมายคุณภาพที่มุ่งหวังไว้ให้เป็นเกียรติยศ ศักดิ์ศรีแก่ชาวหาดใหญ่วิทยาลัย
เนื่องจากโรงเรียนรางวัลพระราชทานจะต้องพิจารณาจากการบริหารจัดการศึกษาทั้ง 6 ด้าน คือ ด้านคุณภาพผู้เรียน การบริหารหลักสูตรวิชาการ การบริหารจัดการ ความสัมพันธ์ระหว่างสถานศึกษากับผู้ปกครอง และชุมชน บุคลากร และบริหารบุคคล ความดีเด่นของสถานศึกษา การจัดการศึกษาเพื่อขอรับรางวัลพระราชทานจึงต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งครู นักเรียน ผู้ปกครอง กรรมการสถานศึกษา ศิษย์เก่า ครูเก่า ชุมชน ที่ผ่านมา โรงเรียนได้รับความร่วมมือ ร่วมแรงร่วมใจอย่างดียิ่งจากผู้เกี่ยวข้องจนโรงเรียนจัดการศึกษามีผลสัมฤทธิ์เป็นที่ประจักษ์ มีความพร้อมที่ควรจะได้รับการเสนอชื่อเข้ารับรางวัลพระราชทาน ประจำปี 2556
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานพระราโชวาทในโอกาสรับรางวัลพระราชทานความตอนหนึ่งว่า... “งานด้านการศึกษานั้นนับว่ามีความสำคัญอย่างยิ่ง และมีผลโดยตรงต่อความเจริญขึ้น หรือเสื่อมลงของชาติบ้านเมือง ทั้งนี้ เพราะการศึกษาเป็นกระบวนการที่ปลูกฝังและวางรากฐานความรู้ความคิด ตลอดจนคุณธรรมความประพฤติให้แก่เยาวชน ผู้จะเติบโตขึ้นเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาบ้านเมืองต่อไปในภายภาคหน้า บ้านเมืองใดมีการจัดการศึกษาที่สามารถพัฒนาเยาวชนให้มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ทั้งความรู้ทางวิชาการ ความคิดความฉลาด ความมั่นคงหนักแน่นในเหตุผล และความรู้ผิดชอบชั่วดี บ้านเมืองนั้นย่อมจะมีทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพ ผู้สามารถสร้างสรรค์ความเจริญมั่นคงที่แท้จริงและยั่งยืนให้แก่ส่วนรวมได้...” ชาวหาดใหญ่วิทยาลัยทุกคนต้องตระหนักอยู่เสมอว่า รางวัลพระราชทานเป็นสิ่งที่ทรงคุณค่า และเป็นเกียรติประวัติต่อผู้รับอย่างสูงสุด คุณความดีจะถูกประกาศ และเผยแพร่ไปยังสาธารณชนทั่วไป
ดังนั้น ก้าวต่อไปของชาวหาดใหญ่วิทยาลัย คือ การพัฒนา และเตรียมความพร้อมทั้งด้านครู นักเรียน บุคลากร ทรัพยากร อุปกรณ์ด้านเทคโนโลยีการสอน และองค์ประกอบทุกเรื่องที่จะเป็นส่วนส่งเสริมสนับสนุน กระบวนการจัดการเรียนการสอน เพื่อให้หาดใหญ่วิทยาลัยเป็นโรงเรียนชั้นนำของอาเซียน
ขณะนี้ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา มีนโยบายในการนำชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา อนุมัติงบประมาณ จำนวน 15 ล้านบาท สนับสนุนการก่อตั้งหอสมุด โดยใช้ชั้น 2 ของอาคาร 60 ปีฯ จัดทำหอสมุดเพื่อบริการนักเรียน และประชาชนในอำเภอหาดใหญ่ ซึ่งตรงกับนโยบายของโรงเรียนที่จะจัดการศึกษาให้เป็นโรงเรียนของชุมชนที่สอดคล้องต่อจุดเน้นของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 16 ประชาชนในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา จึงมีเจตนารมณ์ร่วมกันที่จะกราบบังคมทูลพระกรุณาขอพระราชทานนามหอสมุดโรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย อันเป็นหอสมุดชุมชน นามว่า “หอสมุดเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี” อันเป็นมงคลนามสูงสุดที่ชาวจังหวัดสงขลาจะเทิดทูนไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อมฯ สืบไป ซึ่งจะขอพระราชทานกราบบังคมทูลเชิญเสด็จเปิดหอสมุดเฉลิมพระเกียรติในโอกาสอันควรต่อไป
