ตรัง - ผู้ค้าหมูย่าง จ.ตรัง เผยยอดขายตก จนต้องปรับราคาสูงขึ้น หลังเศรษฐกิจซบเซา เงินทองขาดสภาพคล่อง ทำให้ลูกค้าลดการซื้อหมูย่าง ด้านผู้ประกอบการย่อยรายใหม่ยอมหยุดกิจการเพราะสู้ภาวะขาดทุนไม่ไหว พร้อมปรับกลยุทธ์ขายส่งเป็นตัว มากกว่าสับหมูย่างขายหน้าร้าน
วันนี้ (29 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายทวีศักดิ์ ไทรงาม ประธานชมรมผู้ประกอบการหมูย่างเมืองตรัง กล่าวว่า หมูย่างถือเป็นหนึ่งในของกินของฝากขึ้นชื่อของ จ.ตรัง มายาวนานแล้ว มีความเป็นเอกลักษณ์ด้วยรสชาติที่อร่อย หนังกรอบ เนื้อนุ่ม และมีการสืบทอดมาหลายชั่วอายุคน จนนำไปสู่การจัดงานเทศกาลขึ้นทุกปี เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ตลอดจนสร้างรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการ
อย่างไรก็ตาม จากสภาพเศรษฐกิจของปีนี้ที่ซบเซา รวมทั้งพืชเศรษฐกิจหลักของภาคใต้อย่างยางพาราที่มีราคาตกต่ำ ทำให้ส่งผลกระทบถึงหมูย่างที่มียอดขายตกลงอย่างมากถึง 40% อีกทั้งผู้ประกอบการก็มีความจำเป็นที่จะต้องปรับราคาหมูย่างเพิ่มขึ้นตามราคาต้นทุน เช่น หมูเป็น เครื่องปรุง ไม้ฟืน หรือค่าแรง จากกิโลกรัมละ 380-400 บาท มาเป็นกิโลกรัมละ 420-450 บาท
ดังนั้น จึงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ลูกค้าชะลอการซื้อ หรือซื้อหมูย่างน้อยลง ในยุคที่เงินทองขาดสภาพคล่อง และทำให้ยอดขายทั้งจังหวัดประมาณวันละ 100 ตัว เหลือประมาณ 60 ตัว และหันไปผลิตตามยอดการสั่งซื้อเป็นตัวแทนที่จะนำหมูย่างมาสับขายย่อยตามตลาดทั่วไป ซึ่งกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ ผู้ประกอบการหมูย่างรายใหม่ ที่ขณะนี้ประมาณ 20% ได้ยอมหยุดกิจการเพราะสู้ภาวะขาดทุนไม่ไหว
ด้าน น.ส.กนกวรรณ ทองพันธุ์ เจ้าของร้านหมูย่างแม่สมร ยอมรับว่า ผู้ประกอบการหมูย่างที่เหลืออยู่ในขณะนี้จำต้องทำการปรับตัว และวางแผนการขายให้รอบคอบ เพื่อให้พยุงตัวรอดต่อไปได้ ไม่ว่าสภาพเศรษฐกิจจะย่ำแย่ หรือตกต่ำลงเพียงใด เรื่องของคุณภาพ และรสชาติที่มาตรฐานก็ถือเป็นเสน่ห์ที่สำคัญที่สุดของหมูย่าง ซึ่งจะทำให้ลูกค้าเกิดความประทับใจ และอุดหนุนสินค้าชนิดนี้อีกตลอดไป