ยะลา - สองวัยรุ่นปีนรั้วลวดหนามเตรียมโยนของข้ามกำแพงเรือนจำยะลา เมื่อถูกพบตัวใช้คันเบ็ดตกปลาตีหัวผู้คุมเรือนจำ พร้อมขับ จยย.หลบหนี ด้านเจ้าหน้ายิงสวนกระสุนเข้ากลางหลังได้รับบาดเจ็บ พบของกลางโทรศัพท์มือถือ 6 เครื่อง ยาอัลฟาโซแรม 19 เม็ด
วันนี้ (14 ก.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น. ศูนย์วิทยุ สภ.เมือง ยะลา ได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุยิงกันบนถนนริมแม่น้ำปัตตานี หลังเรือนจำกลางยะลา มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จึงได้แจ้ง พ.ต.อ.ประยงค์ โคตรสาขา ผกก.สภ.เมืองยะลา พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจจากศูนย์พิสูจน์หลักฐานที่ 10 ยะลา รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งอยู่ห่างจากด้านหลังเรือนจำกลางยะลาประมาณ 1 กม. เจ้าหน้าที่พบกองเลือดอยู่กลางถนน พร้อมทั้งถุงบรรจุกระป๋องที่ถูกมัดเอาไว้อย่างแน่นหนา คันเบ็ดตกปลา โทรศัพท์มือถือ มีดพก กระเป๋าเงิน และบัตรประชาชนระบุชื่อ นายซาฝีอี อาลีลาเต๊ะ อายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่ 88/2 ถนนสาย 15 ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา และรถจักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่นเวฟ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน กวต 531 ยะลา ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลยะลา จำนวน 2 คน ทราบชื่อคือ นายซาฝีอี อาลีลาเต๊ะ อายุ 17 ปี และนายมูหาหมัดฮาพิด ดอปอ อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 77/2 หมู่ 8 ต.สะเตงนอก อ.เมือง จ.ยะลา โดยนายซาฝีอี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. เข้าที่หลัง จำนวน 1 นัด ส่วน นายมูหาหมัดฮาพิด ได้รับบาดเจ็บหมดสติจากการล้มรถจักรยานยนต์
จากการสอบสวน นายจิรพงษ์ จันทร์งาม เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเรือนจำกลางยะลา ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้รับแจ้งว่ามีวัยรุ่น จำนวน 2 คน ปีนรั้วลวดหนามเพื่อที่จะนำสิ่งของเข้าไปโยนข้ามกำแพงเรือนจำ จึงได้ขับจักรยานยนต์ไปด้านหลังเพื่อที่จะสกัดตัวคนร้าย ในขณะที่มาถึงด้านหลังพบชายวัยรุ่นกำลังปืนต้นไม้ข้ามรั้วลวดหนามออกมาเพื่อที่จะหลบหนี หลังจากเจ้าหน้าที่ภายในเรือนจำกำลังปิดล้อมเพื่อไล่ล่า โดยเมื่อ 2 คนร้ายถูก นายจิรพงษ์ ควบคุมตัว จึงได้ใช้คันเบ็ดตกปลาพาดใส่ศีรษะ นายจิรพงษ์ ก่อนที่จะขับจักรยานยนต์หลบหนี โดยนายจิรพงษ์ จึงได้ชักอาวุธปืนพกประจำกายยิงใส่ไป จำนวน 3 นัด ก่อนที่คนร้ายทั้ง 2 ราย จะเสียหลักรถจักรยานยนต์ล้ม และถูกเจ้าหน้าที่ดักสกัดควบคุมตัวไว้ได้ดังกล่าว
หลังจากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบภายในถุงที่บรรจุกระป๋อง พบว่าภายในบรรจุโทรศัพท์มือถือยี่ห้อต่างๆ จำนวน 6 เครื่อง พร้อมทั้งสายชาร์จ และยาอัลฟาโซแรม บรรจุในหลอด จำนวน 19 เม็ด จึงเก็บรวบรวมเอาไว้เป็นหลักฐานเพื่อดำเนินคดีต่อไป