เอเจนซีส์ - เกิดเหตุจลาจลภายในเรือนจำทางตอนใต้ของบราซิลเมื่อวานนี้ (24 ส.ค.) ส่งผลให้มีนักโทษถูกฆ่าตัดคอไป 2 ราย และมีผู้ต้องขังรายที่ 3 ถูกโยนจากอาคารลงมาเสียชีวิต
นักโทษในเรือนจำเมืองกาสกาเวลได้จับผู้คุม 2 คนและเพื่อนร่วมคุกอีกจำนวนหนึ่งเป็นตัวประกัน โดย ร.อ.ริการ์โด ปินโต สารวัตรทหาร ระบุว่า การเจรจาต่อรองเพื่อขอให้ปรับปรุงสภาพความเป็นอยู่ของนักโทษในเรือนจำยังคงดำเนินอยู่ แม้เหตุการณ์จะผ่านมาถึง 12 ชั่วโมงแล้วก็ตาม
นักโทษกลุ่มนี้ได้จุดไฟเผาทรัพย์สิน และใช้ท่อเหล็กทุบทำลายเรือนจำซึ่งมีเตียงอยู่แค่ 928 เตียงทว่าต้องรองรับนักโทษมากกว่า 1,000 คน
เจ้าหน้าที่รายงานเบื้องต้นว่า นักโทษ 2 รายถูกเพื่อนร่วมคุกฆ่าตัดคอ ต่อมาจึงได้ทราบว่ามีรายที่ 3 ถูกจับโยนจากอาคารลงมาเสียชีวิต ทว่าเวลานี้ยังไม่สามารถระบุชื่อผู้ตาย
ปินโต เปิดเผยว่า เหตุจลาจลเกิดขึ้นก่อนรุ่งสางของวันอาทิตย์ (24) โดยนักโทษได้จับผู้คุมคนหนึ่งเป็นตัวประกันระหว่างรับประทานอาหารเช้า
นักโทษหลายสิบคนปีนขึ้นไปหลังคาอาคารโดยเอาผ้าสีขาวปกปิดใบหน้าตนเองไว้ ขณะที่สื่อท้องถิ่นแพร่ภาพนักโทษกบฏอย่างน้อย 30 คนร้องตะโกนโหวกเหวก และทุบตีนักโทษกลุ่มหนึ่งซึ่งถูกเชือกรัดคอ หรือถูกมัดมือไพล่หลัง
พวกเขายังชูป้ายที่เขียนอักษรย่อ PCC ซึ่งหมายถึงกลุ่มอาชญากรในคุกที่รวมตัวกันขึ้นเมื่อทศวรรษ 1990
ไฮโร เฟอร์เรรา ทนายความจากสหภาพผู้คุมเรือนจำ ให้สัมภาษณ์ต่อเว็บไซต์ข่าวซีจีเอ็นว่า มีอยู่ช่วงหนึ่งที่พวกนักโทษได้นำ “ศีรษะ” เพื่อนร่วมคุกที่ถูกตัดขาดไปวางบนตักของผู้คุมที่ถูกจับเป็นตัวประกัน ซึ่งต่อมาผู้คุมรายนั้นก็ได้รับการปล่อยตัว
ญาติมิตรของผู้ต้องขังต่างเดินทางไปที่เรือนจำ และเฝ้ารอจนมืดค่ำเพื่อสอบถามชะตากรรมของบุคคลอันเป็นที่รัก
เฟอร์เรราระบุว่า นักโทษที่ก่อเหตุวุ่นวายต้องการให้เรือนจำจัดอาหารที่มีคุณภาพดีกว่าเดิม และให้บริการทางการแพทย์ในคุกด้วย ขณะที่ ปินโต ชี้ว่า เหตุการณ์นี้อาจมีส่วนเชื่อมโยงกับการตัดสินลงโทษผู้ต้องขัง 2 รายก่อนหน้านี้