ตรัง - เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถนำเรือและเครื่องมือออกไปทำการกู้ซากเรือบรรทุกปูนซีเมนต์เครือ SCG ล่มกลางทะเลตรัง เนื่องจากสภาพท้องทะเลขณะนี้ยังมีคลื่นลมแรง
วันนี้ (12 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเกิดเหตุเรือบรรทุกปูนซีเมนต์บริษัท จัมโบ้บาร์จ แอนด์ ทัก จำกัด จำนวน 2 ลำ ล่มบริเวณเกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง ซึ่งเรือทั้ง 2 ลำ บรรทุกปูนซีเมนต์ของบริษัท SCG จำกัด น้ำหนักประมาณ 3,000 ตัน ออกจากท่าเรือแสงทอง อำเภอกันตัง เพื่อมุ่งหน้าไปยังเกาะลันตา จ.กระบี่ เพื่อขนถ่ายปูนซีเมนต์ทั้งหมดลงเรือขนาดใหญ่ส่งสินค้าต่อไปยังประเทศพม่า
แต่ระหว่างทางถูกคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร พร้อมพายุลมแรงซัดโหมกระหน่ำเข้าใส่เรืออย่างรุนแรงต่อเนื่อง ทำให้เกิดอุบัติเหตุจมลงกลางทะเลตรัง ขณะที่ลูกเรือลำละ 2 คน สลัดเรือ และหนีเอาตัวรอดมาขึ้นเรืออีก 2 ลำ ที่รอดจากการจมลงได้อย่างปลอดภัย
นายสุธี สุขสม ผอ.เจ้าท่า ภูมิภาคที่ 5 จ.ตรัง กล่าวว่า หลังจากที่เรือจมลงในทะเล ก็มีคำสั่งให้บริษัทฯ ติดตั้งสัญลักษณ์บริเวณจุดเกิดเหตุ และได้พยายามจะนำเรือ และอุปกรณ์ต่างๆ ออกไปกู้เรือทั้ง 2 ลำแล้ว แต่ยังไม่สามารถฝ่าคลื่นที่สูง 3-4 เมตรออกไปได้ ประกอบกับมีฝนตกหนักจึงทำให้เป็นอุปสรรคในการทำงาน
ดังนั้น เจ้าหน้าที่จะต้องรอให้คลื่นลมสงบลงเสียก่อนจึงจะสามารถเข้าไปดำเนินการใดๆได้ ขณะที่เรือสินค้าชนิดอื่นๆ ขณะนี้ก็ยังไม่กล้าบรรทุกสินค้าออกสู่ทะเลได้ เนื่องจากเกรงจะเกิดอุบัติเหตุเช่นกัน ด้านเจ้าหน้าที่ก็ยังอยู่ระหว่างการแจ้งเตือนให้เรือทุกชนิดงดออกจากฝั่งในระยะนี้ ถึงวันที่ 14 กันยายนนี้
