ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เจ้าหน้าที่ภาคสนามของแผนปฏิบัติการอนุรักษ์โลมา โครงการปกป้องปักษ์ใต้ หรือ Save South เผยแพร่ภาพโลมาสีชมพูที่ชาวประมงบ้านปากพญา จ.นครศรีธรรมราช บันทึกไว้ เพื่อยืนยันถึงความสมบูรณ์ของระบบนิเวศ และผลักดันให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ จี้สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำยุติต้นตอให้เกิดการล่าโลมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หน้าเพจ Youtube ของผู้ประสานงานภาคสนามแผนปฏิบัติการอนุรักษ์โลมา โครงการปกป้องปักษ์ใต้ หรือ Save South ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอที่ชาวประมงชื่อ บังสุไล ชาวประมงบ้านปากพญา ต.ท่าซัก อ.เมืองนครศรีธรรมราช เป็นผู้บันทึกไว้ได้ด้วยกล้องวิดีโอในโทรศัพท์มือถือ เป็นภาพของปลาโลมาสีชมพู ที่พบว่า หากินเป็นฝูงใหญ่ในบริเวณอ่าวบ้านปากพญา มานานหลายชั่วอายุคน (http://www.youtube.com/watch?v=szyy4WPesaI&feature=youtu.be)
กัมพล จิตตะนัง ผู้ประสานงานภาคสนามของโครงการฯ เปิดเผยต่อ “ASTVผู้จัดการภาคใต้” ว่า โลมาสีชมพู สามารถพบเห็นได้ง่ายๆ บริเวณทะเลในอ่าวปากพญา จากการลงศึกษาพื้นที่มานานหลายปีพบว่า ชุมชนบ้านปากพญา เป็นชุมชนประมงเก่าแก่ สมัยก่อนผู้คนมีฐานะดี แม้ปัจจุบันหลายอย่างจะเสื่อมไปตามกาลเวลา แต่พบว่าระบบนิเวศของอ่าวปากพญา ยังเหลือความอุดมสมบูรณ์อยู่มาก เป็นแหล่งวางไข่ของสัตว์น้ำทะเลหลายชนิด เช่น ปูดำ ที่พบว่ามีตัวใหญ่มาก ชาวประมงจับส่งขายภัตตาคารในกรุงเทพฯ ราคาตกตัวละ 2 พันกว่าบาทก็มี
“จุดแข็งของที่ตั้งชุมชนเหมาะมากต่อการพัฒนาให้ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่ยั่งยืน เนื่องจากมีปลาโลมาสีชมพูฝูงใหญ่ไม่ต่ำกว่า 60-70 ตัว หากินอยู่ไม่ห่างจากชายฝั่ง และพบได้เกือบจะทุกวัน ในขณะเดียวกัน ที่นี่ยังมีความเก่าแก่ทางวัฒนธรรมที่สามารถนำมาเชื่อมร้อยกันได้ เพื่อสร้างเป็นจุดขายให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ชุมชนที่นี่เอาไว้ กิจกรรมเร่งด่วนที่เรากำลังผลักดันในขณะนี้คือ พบว่ามีการลักลอบล่าปลาโลมา มีทั้งที่นำเนื้อไปทำเป็นอาหาร และที่สำคัญคือ การจับปลาโลมาส่งขายยังสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำต่างๆ ซึ่งอยู่ในตู้โชว์ได้ไม่นานโลมาก็ตาย และมีการมาจ้างให้ชาวประมงไปจับมาใหม่เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ ไม่นานมันคงสูญพันธุ์” กัมพล กล่าวและว่า
หากผู้ใดพบเห็นการค้าโลมา แจ้งมาที่แผนปฏิบัติการอนุรักษ์โลมา โครงการปกป้องปักษ์ใต้ [SAVE SOUTH] โทรศัพท์ 08-3523-1001 อีเมล roungkao@gmail.com
