ศูนย์ข่าวภาคใต้ - ทหาร มทบ.41 สุราษฎร์ธานี กลับลำสั่งเครือข่ายขาหุ้นปฏิรูปพลังงานหยุดเดินรอบเกาะสมุยในวันพรุ่งนี้ ด้านชาวบ้านสุดงง เพราะ 2 วันก่อน ผู้บัญชาการมณฑล เดินทางมาคุยเอง ระบุชัดว่าเป็นการรณรงค์ปกป้องผลประโยชน์ชาติจริง แถมคุยหากมีเวลาจะมาเดินด้วย ด้านเครือข่ายขาหุ้นฯ ถาม ต่อไปนี้ประชาชนจะเชื่อใจทหารได้อีกหรือ? พร้อมออกเดินต่อทันทีเพื่อให้ถึงที่หมายจุดสุดท้ายในคืนนี้ ไม่ให้เป็นการขัดคำสั่งทหาร ที่ห้ามเดินในวันพรุ่งนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา ขณะที่เครือข่ายขาหุ้นปฏิรูปพลังงาน เดินเท้ามาถึงบริเวณศาลเจ้ากวนอู บ้านหัวถนน อ.เกาะสมุย ซึ่งใช้เป็นที่พักค้างคืนเพื่อเตรียมตัวเดินเท้าต่อในวันพรุ่งนี้ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการเดินรณรงค์ปฏิรูปพลังงานรอบเกาะสมุย โดยกำหนดจุดสิ้นสุดการเดินไว้ที่ ที่ว่าการอำเภอเกาะสมุย
อย่างไรก็ตาม ปรากฏว่าขณะเครือข่ายขาหุ้นปฏิรูปพลังงาน นำโดย นายอานนท์ วาทยานนท์ ผู้ประสานงานเครือข่ายขาหุ้นปฏิรูปพลังงาน อ.เกาะสมุย และสมาชิกอีก 3 คน พร้อมผู้ติดตามจำนวนหนึ่งกำลังเตรียมตัวเข้าที่พัก ได้มีเจ้าหน้าที่ทหารเดินทางมาเข้าพบเครือข่ายขาหุ้นฯ ทั้ง 4 คน ที่ร่วมเดินรณรงค์ปฏิรูปพลังงานในวันนี้
โดยทหารที่เดินทางมาพบได้นำสำเนาหนังสือคำสั่งเรื่องมาตรการในการดำเนินการต่อผู้ฝ่าฝืนประกาศ/คำสั่ง คสช. ซึ่งมีเนื้อหาระบุถึงการดำเนินการต่อผู้ฝ่าฝืนคำสั่ง หรือประกาศของ คสช.หรือต่อต้านการปฏิบัติงานของ คสช.สร้างความขัดแย้ง และแตกแยกในสังคม ให้เจ้าหน้าที่ทหารเข้าชี้แจงทำความเข้าใจต่อกลุ่มบุคคล หรือบุคคลดังกล่าว แต่หากยังมีการฝ่าฝืนอีกก็ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารกักตัวไว้เป็นเวลาไม่เกิน 7 วัน โดยสำเนาหนังสือดังกล่าวมีชื่อของ พ.อ.พงศ์เทพ บุญชูดวง นายทหารพระธรรมนูญ กองทัพภาค 4 เป็นผู้ลงนาม ระบุวันที่ 28 สิงหาคม 2557
ผู้ประสานงานเครือข่ายขาหุ้นปฏิรูปพลังงาน เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารสังกัดมณฑลทหารบก ที่ 41 จ.สุราษฎร์ธานี นำหนังสือคำสั่งดังกล่าวมาแสดงพร้อมแจ้งว่าเครือข่ายขาหุ้นปฏิรูปพลังงานจะต้องยุติกิจกรรมการเดินรณรงค์ปฏิรูปพลังงานทันที ห้ามมีการทำกิจกรรมนี้ต่อในวันพรุ่งนี้โดยเด็ดขาด หากฝ่าฝืนจะถูกดำเนินการตามคำสั่ง คสช. คือ ถูกกักตัวไว้เป็นเวลา 7 วัน แม้ทางเครือข่ายจะพยายามชี้แจงว่าเป็นการรณรงค์อย่างสงบ และมีผู้เข้าร่วมไม่เกิน 5 คน ซึ่งไม่น่าจะขัดต่อกฎอัยการศึกที่ห้ามมีการชุมนุมเกิน 5 คน และกิจกรรมที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ไม่ได้สร้างความแตกแยก หรือขัดแย้งแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 27 ส.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่เครือข่ายขาหุ้นปฏิรูปพลังงานเดินเท้าอยู่ในเขตพื้นที่รอยต่อ อ.ขนอม กับ อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ระหว่างแวะพักรับประทานอาหารกลางวัน ที่บ้านเขาฝ้าย อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช พล.ต.พีรพล วิริยากุล ผบ.มทบ.41 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจ และทหารหลายสิบนาย ได้เดินทางมาทำให้บรรยากาศในขณะนั้นเต็มไปด้วยความตึงเครียด จนกระทั่งมีการเจรจาพูดคุยทำความเข้าใจกันจึงทำให้บรรยากาศคลี่คลายลงไป
โดยนายทรงวุฒิ พัฒแก้ว ผู้ประสานงานเครือข่ายขาหุ้นฯ เล่าบรรยากาศในช่วงการพูดคุยว่า ได้อธิบายให้ ผบ.มทบ.41 ทราบถึงกระบวนการทั้งหมดที่แสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนตลอดมาว่า เป็นการเดินกันอย่างสงบ และไม่ละเมิดกฎหมาย เพราะมีผู้เดินไม่เกิน 5 คน และเดินไปเรื่อยๆ เพื่อรวบรวมข้อมูลเรื่องราวต่างๆ จากประชาชน 2 ข้างทาง นำไปสังเคราะห์เป็นรูปเล่มเพื่อเสนอเป็นแนวคิดในการปฏิรูปพลังงาน
“ผมประทับใจที่ ผบ.มทบ.41 ได้เห็นถึงความตั้งใจ ท่านมานั่งกับพื้นปูนบนศาลาที่ไม่ได้เก็บกวาด และระบุอย่างชัดเจนว่า ได้เห็นความตั้งใจ มุ่งมั่น ศรัทธา และฝากให้พวกเราทำให้สำเร็จ การทำลายศรัทธา และทำลายความหวังเป็นการทำลายความสุข เมื่อประชาชนมุ่งมั่นขอให้เดินต่อไป หวังว่าดอกไม้แห่งมิตรภาพเช่นนี้จะเบ่งบานไปตลอดเส้นทาง ผบ.มทบ.41 ยังฝากแก่พวกเราอีกว่า ขอให้เรียบเรียงข้อมูล ถ้ามีโอกาส และว่างเว้นจากภาระหน้าที่จะร่วมเดินกับเราด้วย และสิ่งที่ทำให้เรามีความเชื่อมั่นในศรัทธาที่มีคือ ท่านบอกว่าเรื่องที่ทำนี้ดีมาก เป็นประโยชน์ต่อประชาชน และประเทศชาติ เอกสารที่เราจัดทำออกแจกจ่ายตลอดสองข้างทาง ไม่มีทัศนคติที่เป็นอันตรายต่อความมั่นคง หรือเป็นปฏิปักษ์ต่อ คสช. หรือรัฐบาล”
ทันทีที่มีคำสั่งจากนายทหารพระธรรมนูญให้เครือข่ายขาหุ้นฯ ยุติการเดินในวันพรุ่งนี้ ปรากฏว่าทางเครือข่ายขาหุ้นฯ ได้มีมติร่วมกันว่าจะเดินในระยะทางที่เหลือให้จบภายในคืนนี้ โดยจะเริ่มเดินจากจุดแวะพักที่ศาลเจ้ากวนอูบ้านหัวถนน มุ่งหน้าไปที่ที่ว่าการอำเภอเกาะสมุย ซึ่งกำหนดให้เป็นจุดสิ้นสุดของการเดินรอบเกาะสมุยตามเจตนารมณ์ที่วางไว้
“เมื่อ 2 วันก่อน นายทหารระดับผู้บัญชาการมณฑล เดินทางมาพูดคุยทำความเข้าใจกันด้วยดี ทั้งยังบอกว่าเข้าใจในเจตนารมณ์ และหากมีเวลาจะมาร่วมเดินด้วย เพราะมองเห็นในความตั้งใจดีว่าเราทำเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาติจริงๆ แต่คำสั่งที่ออกมาในวันนี้ยืนยันได้ชัดเจนว่า ทหารเป็นลูกผู้ชาย และจริงใจต่อประชาชน และประเทศชาตินั้นเป็นคำพูดที่เชื่อถือได้หรือไม่” ผู้ประสานงานเครือข่ายขาหุ้นฯ รายหนึ่ง กล่าว