นครศรีธรรมราช - พบคุณทวด 4 แผ่นดิน อายุ 112 ปี คาดอายุยืนที่สุดในประเทศไทย ยังแข็งแรงอารมณ์ดี ชอบเย้าหลานเล่น คุณทวดเผยเคล็ดลับอายุยืน เน้นรับประทานผักผลไม้ที่ปลูกเอง ทานของจืดๆ ลูกหลานกระเซ้า “ทวดไม่ตายเพราะยมบาลลืมชื่อทวดพั้วไปแล้ว”
วันนี้ (27 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรับแจ้งจากชาวบ้านในหมู่ที่ 2 ตำบลท่าเรือ อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช ว่า มีคุณทวดอายุยืนถึง 112 ปี และยังมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่ป่วยไข้อย่างน่าอัศจรรย์ สำหรับคนชราในวัยอายุเกิน 100 ปี หลังจากนั้น จึงเข้าไปติดตามข้อมูลพบว่า คุณทวดท่านนี้คือ คุณทวดพั้ว อมรกาญจน์ อายุ 112 ปี อยู่บ้านเลขที่ 290/1 หมู่ที่ 2 ตำบลท่าเรือ อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช โดยเมื่อเข้าไปถึงนั้นพบว่า คุณทวดกับลังเอนกายพักผ่อนอย่างสบายอารมณ์ ท่ามกลางลูกหลานที่เข้ามาดูแลไม่ขาด
เมื่อเข้าไปพุดคุยกับคุณทวดพั้ว พบว่า มีอาการหูตึงบ้าง เนื่องจากอยู่ในวัยชราภาพถึง 112 ปี แต่สายตา และการสื่อสารนั้นยังเป็นไปด้วยดี ขณะที่ลูกหลานได้หยอกล้อกับคุณทวดอย่างอบอุ่น ส่วนคุณทวดนั้น ได้เย้าตอบกลับลูกหลานอย่างน่ารัก และเมื่อผู้สื่อข่าวเข้าไปถึงบริเวณที่คุณทวดพักผ่อนอยู่นั้น
คุณทวดได้ดุลูกสาวที่อยู่ในวัยชราเช่นเดียวกันว่า ทำไมไม่ชวนแขกให้เข้ามานั่ง และถามว่าใครมากันมากมาย และเมื่อลูกสาวบอกว่า เขามาถ่ายภาพ คุณทวดจึงยิ้มอย่างอารมณ์ดีและลุกขึ้นเดินโชว์ความแข็งแรงก่อนไปหยุดที่รองเท้า และบอกว่า “เกือกใครจังหูหมด” (หมายถึงรองเท้าใครวางไว้เป็นจำนวนมาก) ก่อนจะกลับมานั่งที่เดิม และบอกว่า “เดินมากกูเข็ดเอว” (หมายถึงเดินมากจะปวดเอว)
นางทวน อมรกาญจน์ อายุ 70 ปี บุตรสาวของทวดพั้ว กล่าวว่า ทวดพั้ว เกิดเมื่อปี 2445 แต่ไม่ทราบเดือน หรือวันที่แน่นอน ส่วนบิดานั้นคือ พ่อเขียว อมรกาญจน์ เสียชีวิตไปตอนอายุได้ 80 ปี เมื่อราว 40 ปีมาแล้ว ทวดพั้ว ได้ตกพุ่มม่าย และครองตัวเป็นโสดมาตลอดไม่ยอมมีสามีใหม่ ขณะที่มีลูกรวม 7 คน เสียชีวิตไปแล้ว 2 คน คนโตอายุมากที่สุด คือ นางเผียน อมรกาญจน์ อายุ 86 ปี น้องสุดท้องคือ นางพวง อมรกาญจน์ อายุ 67 ปี
นางพวง อมรกาญจน์ ที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาดูแลมารดาคือทวดพั้ว บอกว่า แม่ หรือทวดพั้วของลูกหลาน จะชอบรับประทานผักผลไม้ และกับข้าวนั้นจะชอบแกงเลียง ส่วนผลไม้จะชอบที่สุดคือ กล้วยน้ำว้า ลูกหลานเคยถามว่า ทำไมทวดอายุยืน แม่บอกว่ากินอาหารจืดๆ เข้าไว้ ส่วนสุขภาพนั้นถือว่าดีมากไม่ป่วยไม่ไข้เลย มีเพียงอย่างเดียวคือ ร่างกายที่เสื่อมไปตามสภาพวัยชรา คือ หูตึงไม่ค่อยได้ยิน เดินมากไม่ได้จะเหนื่อยล้า
“คนที่มาเยี่ยมหลายคน เมื่อมาถึงบางคนขอยาหอม ยาลม หรือยาดมจากทวด ทวดบอกว่า “ของพันนั้นบ้านกูไม่มีกูไม่เคยใช้” (ของแบบนั้นที่บ้านไม่มีไม่เคยใช้) ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกมาก ลูกๆ ต่างวิตกกังวลเพียงอย่างเดียวในขณะนี้ คือ ลูกๆ ที่ชราภาพกันมากแล้วจะตายไปก่อนจะไม่มีใครดูแลแม่ หรือทวดของลูกหลาน แต่ที่เบาใจมาได้บ้างคือ หลานๆ ต่างรักทวดพั้ว มาหยอกล้อเล่นทุกวัน และต่างบอกว่า หากรุ่นลูกของทวดพั้วตายไปหมดแล้ว รุ่นหลานจะเลี้ยงทวดต่อไปเอง บางคนเย้าแหย่ไปว่าทวดไม่ตายแน่นอน เพราะยมบาลลืมชื่อทวดพั้วไปแล้ว” ลูกสาวของคุณทวดพั้ว กล่าวอย่างอารมณ์ดี