นครศรีธรรมราช - สลดฆ่าเชือดคอคุณทวดวัย 81 ปี เสียชีวิตคาที่นอน เงิน 10,000 ใต้หมอนอยู่ครบ ตร.ยังมึนเรียกหลานเป็นโรคจิตเวชสอบเค้น พร้อมปล่อยตัวมาเนื่องจากหลานผู้ตายให้การปฏิเสธ และท่าทีสงบ เชื่อคนร้ายรู้จักกับผู้ตายเป็นอย่างดี
วันนี้ (12 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ร.ต.ท.คำนึง บัณฑิต พนักงานสอบสวนเวร สภ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งว่า มีเหตุฆ่ากันตายที่หมู่บ้านตลาดจันทร์ บ้านเลขที่ 89 ม.9 ต.กะหรอ อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช จากนั้นจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.อลงกรณ์ ศรีมาวุธ ผกก. พ.ต.ท.ประจักษ์ หาญทอง รอง ผกก.หน.พนักงานสอบสวน ตำรวจชุดสืบสวน นพ.เข็มชาติ สว่างวรชาติ แพทย์เวร รพ.ท่าศาลา และ จนท.มูลนิธิประชาร่วมใจ เข้าทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
ที่เกิดเหตุภายในบ้านดังกล่าวพบศพผู้ตายชื่อ นางเดื่อง อู่ทองคำ อายุ 81 ปี เจ้าของบ้านนอนตายจมกองเลือดอยู่บนที่นอน บริเวณห้องโถงหน้าจอทีวี มีบาดแผลถูกปาดคอด้วยของมีคมจนหลอดลมขาด แผลยาวประมาณ 10 ซม. เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 3-4 ชม. เจ้าหน้าที่ตรวจค้นพบว่ามีธนบัตรชนิดต่างๆ ของผู้ตายถูกเก็บซ่อนไว้อย่างเรียบร้อยใต้ที่นอนหลายหมื่นบาท ไม่มีร่องรอยการรื้อค้น หรืออื่นๆ
นายแย้ม อู่ทองคำ อายุ 85 ปี สามีของผู้ตาย ให้การต่อตำรวจว่า นางเดื่อง พักอาศัยในบ้านพักที่เกิดเหตุกับหลานชายคนหนึ่งที่มีเป็นโรคทางจิตเวช เคยรักษาตัวที่ รพ.ประสาทสวนสราญรมย์ จ.สุราษฎร์ธานี มาหลายปีแล้ว โดยที่ญาติ และตนเองออกไปงานของเพื่อนบ้าน จนกระทั่งค่ำได้กลับเข้าบ้านก็พบร่าง นางเดื่อง เสียชีวิตอยู่บนที่นอน
หลังจากนั้น พยายามสอบถามหลานชายคนนี้ยืนยันว่าไม่ได้เป็นคนทำ เนื่องจากออกไปซื้อของนอกบ้านไม่อยู่บ้านขณะที่เกิดเหตุ และเป็นที่น่าสงสัยว่า เงินหลายหมื่นบาทที่ผู้ตายเก็บไว้ใต้ที่นอนยังอยู่ครบ
ต่อมา ทาง พ.ต.ท.ประจักษ์ หาญทอง รอง ผกก.หน.พนักงานสอบสวน สภ.นบพิตำ และตำรวจชุดสืบสวน ได้นำตัวหลานชายซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยฆ่าปาดคอยายตัวเอง ไปสอบสวนปากคำเครียดที่ สภ.นบพิตำ ตลอดทั้งคืนไม่พบพิรุธ ขณะที่หลานชายผู้ตายรายนี้ได้ปฏิเสธตลอดเวลาจนรุ่งขึ้นเจ้าหน้าที่ได้ปล่อยตัวออกไปก่อน
พ.ต.ท.ประจักษ์ ระบุว่า อย่างไรก็ตาม แม้ผู้ต้องสงสัยรายนี้จะให้การปฏิเสธ และปล่อยตัวไปชั่วคราว แต่เบื้องต้นทางตำรวจได้มีการรวบรวมพยาน และหลักฐานทั้งในที่เกิดเหตุ และพยานแวดล้อมเพื่อดำเนินการ ซึ่งเชื่อว่าคนร้ายรู้จักกับผู้ตายเป็นอย่างดี และเป็นที่น่าสงสัยว่าเหตุใดจึงไม่แตะต้องทรัพย์สินใดๆ เลย