ศูนย์ข่าวภูเก็ต - คืบหน้ากรณีการข่มขู่วางระเบิดสายการบินแอร์เอเชีย เจ้าหน้ามั่นใจเป็นมั่นใจว่าเป็นการก่อกวนให้เกิดความวุ่นวายขึ้น แต่สาเหตุยังไม่ทราบชัดเจนว่าทำเพราะคึกคะนอง หรือจุดประสงค์ใด แจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินการหาตัวผู้กระทำผิด พร้อมวางมาตรการดูแลความปลอดภัยเข้มข้น
จากกรณีการขู่วางระเบิดสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD 3003 ให้บริการด้วยเครื่องบินแอร์บัส A330-200 มีผู้โดยสาร 167 คน ลูกเรือ 4 คน กัปตันรวมนักบิน 2 คน ได้เดินทางจากท่าอากาศยานดอนเมือง มายังท่าอากาศยานภูเก็ต โดยมีนักกีฬาฟุตบอลทีมชาติไทย ชุดเอเชียนเกมส์ โดยการนำของผู้จัดการทีม ซีโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง พร้อมทีมงาน 32 คน เดินทางมากับเที่ยวบินดังกล่าวด้วย แต่หน่วยงานรักษาความปลอดภัย เจ้าหน้าที่ทำลายวัตถุระเบิด (EOD) และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าทำการตรวจสอบแล้ว ไม่ปรากฏว่ามีเหตุการณ์ผิดปกติตามที่มีโทรศัพท์ขู่แจ้งแต่อย่างใดนั้น
ล่าสุด ในวันนี้ (27 ส.ค.) น.อ.กันต์พัฒน์ มังคละศิริ รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต ได้เรียกประชุุมเจ้าหน้าที่หน่วยรักษาความปลอดภัย เจ้าหน้าสายการบินต่างๆ และเจ้าหน้าที่ทหารจากทัพเรือภาคที่ 3 เข้าร่วม ณ ห้องประชุมการท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต เพื่อสรุปถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้
ในเบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ได้สรุปว่า เป็นการข่มขู่จริง ซึ่งได้มีการเข้าแจ้งความเพื่อติดตามผู้กระทำมาดำเนินคดีที่ สภ.ท่าฉัตรไชยแล้ว โดยในที่ประชุมสรุปว่า อาจเป็นพวกโรคจิตโทร.มาก่อกวน หรือเป็นคนภายใน หรือบริษัทต่างๆ ที่มีใช้อาคารในการท่าฯ และอาจเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการจัดระเบียบการท่าฯ ไม่พอใจจึงทำการขึ้น นอกจากนี้ ยังต้องพิจารณาเรื่องปัญหาของของทีมฟุตบอล
พร้อมให้มีการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มข้น และเพิ่มเจ้าหน้าที่ EOD ของทหารเรือเข้ามาร่วมในการรักษาความปลอดภัย เพื่อตรวจสอบทั้งบุคคล และสิ่งของสัมภาระต่างๆ อย่างละเอียด เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชน และนักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการ และเป็นการป้องกันไม่ให้เหตุเกิดขึ้น ส่วนการติดตามผู้ข่มขู่มาดำเนินคดีนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งแกะรอยอยู่ คาดว่าไม่นานน่าจะมีความคืบหน้า
น.อ.กันต์พัฒน์ มังคละศิริ รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต กล่าวว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่การท่าฯ ได้ปฏิบัติตามมาตรฐานในการรักษาความปลอดภัยอย่างเคร่งคัดทุกขั้นตอน และได้เพิ่มมาตรการในการรักษาความปลอดภัยในทุกพื้นที่เข้มข้นขึ้น แม้ที่ประชุมจะสรุปในเบื้องต้นคาดว่า จะเป็นการโทร.เข้ามาก่อกวนเพื่อให้เกิดความวุ่นวายมากกว่า เพราะดูจากหลักฐานต่างๆ แล้วมั่นใจว่าเป็นการก่อกวนแน่นอน อย่างไรก็ตาม ขอให้มั่นใจว่าทางการท่าฯ มีมาตรการในการักษาความปลอดภัยที่เข้มข้นในทุกพื้นที่ และจะทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อหาตัวผู้ที่โทร.มาก่อกวนมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว