ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ชุดพยัคฆ์ไพร พร้อมทหารเรือ ลงพื้นที่ตรวจสอบแนวเขต “น้ำตกวังขี้อ้อน” ในพื้นที่ป่าตอง ซึ่งเป็นน้ำตกที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเคยเสด็จประพาสเยี่ยมเยียนประชาชนเป็นการส่วนพระองค์ แต่ปัจจุบันพบสภาพน้ำตก-คลอง เล็กลง เนื่องจากมีการก่อสร้างรุกเข้ามา เบื้องต้นพบ 3 จุด เข้าข่ายรุกคลอง แต่ต้องตรวจสอบเอกสารสิทธิให้ชัดเจนก่อนฟันธง ถ้าพบสร้างล้ำคลองรื้อแน่
เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ (17 ส.ค.) นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผู้อำนวยส่วนสำนักงานป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า ทำหน้าที่ผู้อำนวยการส่วนยุทธการด้านป้องกันและปราบปราม สำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า และหัวหน้าชุด “พยัคฆ์ไพร” พร้อมด้วย น.ท.พรพรหม สกุลเต็ม ฝ่ายเสนาธิการ ประจำกองเรือ ปฏิบัติการทัพเรือภาคที่ 3 และผู้ควบคุมความสงบเรียบร้อยในจังหวัดภูเก็ต รวมทั้งกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ จ.ภูเก็ต เจ้าหน้าที่ชุดพยัคฆ์ไพร และเจ้าหน้าที่ทหารเรือจากทัพเรือภาคที่ 3 เข้าตรวจสอบแนวน้ำตก “วังขี้อ้อน” ซึ่งอยู่บริเวณถนนนาใน ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต สำหรับเป็นน้ำตกแห่งนี้ เป็นน้ำตกที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเคยเสด็จประพาส เมื่อปี 2502 แต่ปัจจุบันชาวบ้านในพื้นที่ได้ร้องเรียนไปยังอธิบดีกรมป่าไม้ ว่า แนวน้ำตกดังกล่าวกำลังถูกบุกรุกสร้างบ้านเรือนรุกล้ำเข้ามาในบริเวณน้ำตก และคลองวังขี้อ้อน ทำให้คลองแคบลง จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ
ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า สภาพน้ำตกวังขี้อ้อน ซึ่งอยู่บริเวณสามแยกวังขี้อ้อนนั้นมีการก่อสร้างบ้านเรือนติดกับคลอง และน้ำตก และภายในน้ำตกมีการวางท่อพีวีซีเพื่อนำน้ำไปใช้ตามบ้านเรือน รวมทั้งสภาพคลองมีขนาดเล็กลง รวมทั้งมีสภาพรกรุงรังขาดการดูแล ซึ่งจากการสอบถามชาวบ้านพบว่า มีบางรายได้นำหลักฐานการครอบครองมาแสดงต่อทางเจ้าหน้าที่ แต่บางจุดไม่มีใครมาแสดงตัวเป็นเจ้าของ และบางรายยังมีได้นำหลักฐานมาแสดง
นายชีวะภาพ กล่าวถึงการร่วมกับกำลังทหารเรือ ในการเข้าตรวจสอบแนวน้ำตกดังกล่าว ว่า ในช่วงที่ทางอธิบดีกรมป่าไม้ ลงตรวจราชการที่จังหวัดภูเก็ต ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้าน ว่า น้ำตกวังขี้อ้อน หรือวังขี้อ้น เป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่ในสมัยอดีต ซึ่งเป็นน้ำตกที่ชาวบ้านใช้ประโยชน์ร่วมกัน และเป็นน้ำตกที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเคยเสด็จประพาสเป็นการส่วนพระองค์ เมื่อปี 2502 แต่ปัจจุบันพบว่าน้ำตก และคลองมีสภาพเล็กลง ชาวบ้านไม่สามารถเข้าไปเล่นน้ำตกได้เหมือนในอดีต จึงอยากให้ทางเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบเพื่อนำน้ำตกซึ่งมีประวัติความเป็นมาที่สำคัญสำหรับคนป่าตอง กลับคืนมาเพื่อให้เป็นอนุสรณ์สืบต่อไปสำหรับคนรุ่นหลัง นอกจากนั้น ยังมีการร้องเรียนไปยังทหารเรือด้วย
หลังจากได้รับการร้องเรียน ทางอธิบดีกรมป่าไม้ ก็ได้สั่งการให้ลงมาตรวจสอบ จึงได้ประสานขอความร่วมมือกับทางทหารเรือทัพเรือภาคที่ 3 เข้าตรวจสอบ ซึ่งจากการตรวจสอบในเบื้องต้นคาดว่า น่าจะมีประมาณ 3 จุด ที่มีการก่อสร้างรุกล้ำเข้าไปในลำคลอง และน้ำตกซึ่งเป็นจุดที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเคยประทับเยี่ยมประชาชนที่กำลังเล่นน้ำตกในขณะนั้น แต่อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ยังไม่สามารถดำเนินการอะไรได้ ต้องให้ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประสานไปยังอำเภอ และที่ดินเพื่อขอตรวจสอบเรื่องของเอกสารสิทธิของผู้ครอบครองที่ดินในบริเวณดังกล่าวว่า มีแนวเขตอย่างไร รวมทั้งจะต้องมีการตรวจสอบภาพถ่ายทางอากาศ ซึ่งในเบื้องต้นพบว่า น้ำตกวังขี้อ้อนนั้นอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ต้องให้ทางกรมป่าไม้ดำเนินการตรวจสอบเรื่องของแนวเขตทั้งหมด ถ้าจากการตรวจสอบเอกสารพบว่า มีการก่อสร้างรุกล้ำออกไปนอกเหนือจากเอกสารสิทธิที่ถือครองก็ต้องมีการรื้อถอน ซึ่งการดำเนินการทุกอย่างจะต้องตรวจสอบจากเอกสารการครอบครอง และสภาพพื้นที่เดิม
ขณะที่ นายวิชาญ สวัสดิรักษ์ อดีตกำนัน ต.ป่าตอง อ.กะทู้ กล่าวว่า ในอดีตชาวบ้านในพื้นที่ป่าตองอาศัยน้ำตกวังขี้อ้อน ในการดำรงชีวิตประจำวัน ทั้งซักผ้า อาบน้ำ แต่ปัจจุบันพบว่าน้ำตกดังกล่าวเล็กลงมาก รวมทั้งไม่มีความสวยงาม โดยเฉพาะจุดที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเคยเสด็จประพาส ซึ่งเป็นจุดที่เรียกว่าวังขี้อ้อนนั้นเป็นจุดที่ชาวบ้านใช้เล่นน้ำ แต่ปัจจุบันไม่มีใครกล้าเข้าไปเล่นน้ำตกยังจุดดังกล่าว เนื่องจากทางเข้าเป็นที่ที่มีคนครอบครองอยู่ ส่วนจะมีเอกสารสิทธิหรือไม่ตนไม่ทราบเรื่องนี้ จะต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ แต่ตนอยากเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่นำน้ำตกแห่งนี้กลับมา และปรับปรุงให้เป็นน้ำตกที่สวยงามเหมือนในอดีต ใครๆ ก็สามารถเข้าถึงได้ ซึ่งจะกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของป่าตอง เพราะน้ำตกแห่งนี้มีประวัติที่สวยงาม ซึ่งคนป่าตอง และคนภูเก็ตทราบดีว่าเป็นสถานที่ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเคยเสด็จเยี่ยมประชาชนของพระองค์ ซึ่งในช่วงนั้นตนเองก็ได้เฝ้ารับเสด็จด้วย จึงอยากให้มีการปรับปรุงพัฒนาน้ำตกวังขี้อ้อน ให้กลับมาสวยงามเหมือนเดิม