นราธิวาส - ผบ.นย.ค่ายจุฬาภรณ์ จ.นราฯ เผยเหตุโจรใต้วาง จยย.บอมบ์ เป็นเหตุให้ทหารพรานเสียชีวิต 1 นาย เจ็บ 2 นาย พบว่ามีคนร้ายร่วมก่อเหตุทั้งหมด 5 คน โดยขโมย จยย.มาจากนางแดง และนำมาเปลี่ยนสีใหม่ก่อนที่จะใช้ก่อเหตุ พร้อมแนะพลขับคอยสังเกตรถยนต์ที่จอดอยู่ข้างทาง เพื่อป้องกันเหตุร้าย
วันนี้ (16 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ท.นพดล ฐิตวัฒนสกุล ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน ค่ายจุฬาภรณ์ นราธิวาส กล่าวถึงเหตุรถจักรยานยนต์บอมบ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ม.5 บ.ใหม่ ต.กะลุวอเหนือ อ.เมือง จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบ จนเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ทหารพราน 11 เสียชีวิตระหว่างขับผ่านเส้นทางดังกล่าว 1 นาย และบาดเจ็บอีก 2 นาย ว่า จากการเข้าตรวจสอบและสอบสวนผู้เห็นเหตุการณ์ทราบว่า คนร้ายที่ก่อเหตุครั้งนี้น่าจะมีประมาณ 5 คน โดย 3 คนเป็นผู้นำรถจักรยานยนต์ไปจอดทิ้งไว้ข้างทาง และอีก 2 คนเป็นผู้จุดชนวนระเบิด ซึ่งจะต้องคอยอยู่ในพื้นที่ใกล้กับจุดเกิดเหตุ เนื่องจากมีการจุดชนวนระเบิดด้วยวิทยุสื่อสาร
จากการสอบสวนนั้นได้รับการยืนยันจากชาวบ้านในพื้นที่ว่า บุคคลที่นำรถจักรยานยนต์มาจอดทิ้งไว้ไม่ใช่คนในพื้นที่ อีกทั้งเจ้าหน้าที่สามารถบันทึกภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณด่านตรวจบ้านน้ำแข็งได้ ซึ่งเตรียมนำภาพมาขยายผล โดยในเบื้องต้นเชื่อว่าคนร้ายทั้งหมดจะยังคงเคลื่อนไหวในพื้นที่ของ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส
ส่วนรถจักรยานยนต์ที่ก่อเหตุตรวจสอบแล้วเป็นรถจักรยานยนต์ที่คนร้ายปล้นมาจากนางแดง จันคง อายุ 62 ปี ที่เสียชีวิตจากการถูกลอบยิงจากกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ อ.ตากใบ เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยคนร้ายได้นำรถจักรยานยนต์ไปพ้นเปลี่ยนสีจากสีแดงเป็นสีน้ำเงิน และนำมาก่อเหตุครั้งนี้ ซึ่งหลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะลงพื้นที่ติดตามพฤติกรรมของคนร้ายตามร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ และตามร้านที่รับพ่นเปลี่ยนสีรถจักรยานยนต์ และรถยนต์ในพื้นที่ต่อไป
น.ท.นพดล ฐิตวัฒนสกุล กล่าวด้วยว่า กลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุครั้งนี้เป็นกลุ่มก่อความไม่สงบที่เคลื่อนไหวในพื้นที่ของ อ.เจาะไอร้อง และ อ.ตากใบ ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกันกับที่ก่อเหตุยิงนางจัน เมื่อเดือนกรกฎาคม ส่วนพฤติกรรมการก่อเหตุโดยการจอดรถจักรยานยนต์บอมบ์ไว้ข้างทางนั้น ทางหน่วยมีการเรียกอบรมพลขับให้คอยสังเกตรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ที่มีการจอดลักษณะผิดสังเกต โดยเฉพาะข้างเส้นทางโดยไม่มีเจ้าของ เพื่อป้องกันความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้น
