ปัตตานี - คนร้ายขับจักรยานยนต์พ่วงข้างซุกระเบิด 30 กก.จอดหน้าโรงพยาบาลมายอ ก่อนรีบเผ่นขึ้น จยย.อีกคันที่มารับ คนเห็นมีพิรุธแจ้ง จนท.ไม่ทันการ 10 นาทีระเบิดทำงาน แรงระเบิดส่งผล 2 แม่ลูกเจ็บ พร้อม จนท.เอ็กซ์เรย์ รพ.มายอ อีก 1 คน
เมื่อเวลา 09.10 น.วันนี้(10 ส.ค.) พ.ต.อ.กองอรรถ สุวรรณขำ ผกก.สภ.มายอ จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งมีเหตุระเบิดขึ้นบริเวณหน้า โรงพยาบาลมายอ ม.1 ต.มายอ จ.ปัตตานี จึงประสานไปยังชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดพร้อมนำกำลังไปที่เกิดเหตุ ไปถึงเจ้าหน้าที่ได้ปิดกันบริเวณที่เกิดเหตุและเส้นทางเข้าออกตัวอำเภอมายอเป็นการชั่วคราว เพื่อความปลอดภัย และเมื่อเข้าตรวจสอบพบซากรถ จักรยานยนต์พ่วงข้าง ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟสีแดงดำ ที่คนร้ายซุกระเบิดได้รับความเสียหาย และมีชิ้นส่วนถังแก๊สปิกนิค และชิ้นส่วนระเบิดกระจายไปทั่วบริเวณ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย พลเมืองดีช่วยนำส่งโรงพยาบาลมายอ ทราบชื่อ นางรอซีดะห์ ตาเยะ อายุ 25 ปี ด.ช.ฟาฎิล แวโต อายุ 3 ปี ทั้งสองเป็นแม่ลูกกัน และนายนิเห๊าะ ดอเลาะ อายุ 29 ปี เป็นเจ้าหน้าที่เอ็กซ์เรย์โรงพยาบาลมายอ ทั้งสามถูกสะเก็ดระเบิดที่ลำตัวบาดเจ็บเล็กน้อย
สอบสวนเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลมายอ รายหนึ่งที่เห็นเหตุการณ์ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุมีคนร้ายเป็นชายแต่งกายคล้ายคนขายปลาขับขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างมาจอดไว้ที่เกิดเหตุ แล้วรีบเดินขึ้นรถจักรยานยนต์อีกคันที่มารับหลบหนีไป เห็นผิดสังเกตจึงแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ แต่ไม่ถึง 10 นาทีก็เกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่น ซึ่งระหว่างนั้นแม่ลูกได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาถูกสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บ ส่วนเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลยืนอยู่ที่หน้าโรงพยาบาลได้รับบาดเจ็บไปด้วย
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังไล่ติดตามพร้อมตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดทุกตัว เบื้องต้นพบเบาะแสผู้ต้องสงสัยแล้ว กำลังเร่งขยายภาพถ่ายเพื่อให้พยานยืนยัน ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นฝีมือกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่สร้างสถานการณ์ และเชื่อเป็นการตอบโต้เนื่องจากเมื่อวันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้ทำการปิดล้อมตรวจค้น 6 เป้าหมายในพื้นที่ ม.1 ต.ปะโด อ.มายอ กรณีเหตุลอบวางระเบิดกว่า 20 จุดในเขต อ.เมืองปัตตานีเมื่อวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งขณะตรวจค้นบ้านไม่มีเลขที่พบผู้ต้องสงสัย 5-6 คน กระโดดออกจากบ้านวิ่งหนีเจ้าหน้าที่ไล่ติดตามจับได้กลางทุ่งนาได้ 4 คน แล้วนำตัวไปตรวจค้นบ้านสามารถยึดของกลางเป็นอาวุธปืน โทรศัพท์มือถือ และยังพบสารประกอบระเบิดที่เสื้อผ้า ล่าสุดนำตัวไปสอบสวนที่กรมทหารพรานที่ 41 เพื่อขยายผลและตรวจดีเอ็นเอเปรียบเทียบวัตถุพยานในคดีความมั่นคงว่ามีหรือไม่