พังงา - ชาวบ้าน จ.พังงา ผุดไอเดียนำขวดน้ำพลาสติกเก่ามารีไซเคิลเลี้ยงกบในขวด พ่อค้ามารับซื้อถึงที่เพาะขายแทบไม่ทัน เป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ นอกเหนือจากงานประจำ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกษตรกรในตำบลโคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา ได้นำขวดน้ำพลาสติกมาเพาะเลี้ยงกบ เพื่อขายเป็นรายได้เสริมช่วงเข้าสู่ฤดูฝน จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบว่า เกษตรกรรายดังกล่าว คือ นายสมพงษ์ สมใหญ่ อยู่บ้านเลขที่ 25/5 หมู่ที่ 9 ต.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง โดยนำขวดน้ำพลาสติกที่ใช้แล้วมาเลี้ยงกบ เพื่อเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ให้แก่ครอบครัว โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนเหมาะแก่การเลี้ยงกบ และการขยายพันธ์กบ ซึ่งเกษตรกรได้นำกบแรกเกิดมาเลี้ยงใส่ไว้ในขวดน้ำพลาสติกที่ใช้แล้ว โดยนำขวดมาเจาะรูด้านบน และนำหัวขวดน้ำอีกอันตัดมาเสียบเป็นกรวย เพื่อใช้เป็นช่องหยอดอาหารไว้ให้แก่ลูกกบ โดยจะนำอาหารปลาเลี้ยงประมาณ 4 เดือน ก็จะได้กบประมาณ 4-5 ตัว ต่อ 1 กิโลกรัม และจะนำไปจำหน่ายได้กิโลกรัมละ 100 บาท
นายสมพงษ์ กล่าวว่า นำพ่อ-แม่พันธุ์กบนา มาเพาะเลี้ยงไว้ในบ่อซีเมนต์ขนาดกว้างหนึ่งเมตร โดยได้มีการแยกพ่อ-แม่พันธุ์ไว้คนละบ่อเมื่อต้องการจะผสมพันธุ์ก็จะคัดเลือกแม่พันธุ์ที่สมบูรณ์โดยสังเกตได้จากข้างท้องบวมๆ เนื่องจากเริ่มมีไข่แล้ว ส่วนพ่อพันธุ์กบจะเลือกจากตัวที่ร้องเสียงดัง แล้วนำมาอยู่ด้วยกันในบ่อซีเมนต์ โดยธรรมชาติของกบจะผสมพันธุ์กันในเช้ามืดคือ ช่วงเวลาตี 4 ถึง 6 โมงเช้า พอผสมพันธุ์เสร็จกบตัวเมียก็จะปล่อยไข่ออกมา จากนั้นเราก็จะนำพ่อแม่พันธุ์กบกลับไปยังบ่อซีเมนต์ตามเดิมโดยในบ่อนี้ให้เหลือเพียงไข่เท่านั้น จากนั้นประมาณ 24 ชั่วโมง ไข่ของกบก็จะเปลี่ยนเป็นลูกอ๊อด
หลังจากนั้น เลี้ยงต่อไปอีก 1 เดือน พอเข้าเดือนที่ 2 หางของลูกอ๊อดก็จะเริ่มหดจะเริ่มเป็นลูกกบแล้วในช่วงนี้ก็จะนำไปเลี้ยงต่อในขวดน้ำพลาสติกขนาด 5 ลิตร โดยมีการเจาะรูไว้ด้านบนขวดเพื่อใช้ระบายอากาศ แล้วใส่น้ำเข้าไปไม่ต้องมากพอให้กบได้ลงไปแช่ในน้ำได้ ให้อาหารวันละ 2 ครั้ง อาหารที่ให้ก็สามารถหาซื้อได้ตามท้องตลาดทั่วไป หรือว่านำอาหารที่ใช้สำหรับเลี้ยงปลาดุกก็ใช้ได้ มีการเปลี่ยนถ่ายน้ำบ่อยๆ พอกบตัวโตเต็มขวด ก็จับขายได้ ส่งขายราคากิโลกรัมละ 100 บาท ถ้าเป็นพ่อแม่พันธุ์จะขายคู่ละ 400 บาท
โดยพ่อค้าที่รับซื้อส่วนใหญ่จะรับซื้อนำไปทำอาหาร บางรายก็จะนำไปสะเดาะเคราะห์แก้บน ส่วนมากพ่อค้าที่มารับซื้อจะมาจากภูเก็ต และในพื้นที่ใกล้เคียง วันหนึ่งจะขายได้ประมาณ 4-5 กิโลกรัม ปัจจุบันได้มีการรวมตัวกันเป็นกลุ่มของชุมชนเพื่อเลี้ยงกบในขวดน้ำพลาสติกโดยตนจะให้คำแนะนำในการเลี้ยง ทำให้ชาวบ้านในหมู่บ้านมีรายได้เลี้ยงครอบครัวได้อย่างสบาย ซึ่งเป็นอาชีพเสริมที่สร้างรายได้หลังจากเสร็จจากภารกิจอาชีพหลัก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกษตรกรในตำบลโคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา ได้นำขวดน้ำพลาสติกมาเพาะเลี้ยงกบ เพื่อขายเป็นรายได้เสริมช่วงเข้าสู่ฤดูฝน จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบว่า เกษตรกรรายดังกล่าว คือ นายสมพงษ์ สมใหญ่ อยู่บ้านเลขที่ 25/5 หมู่ที่ 9 ต.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง โดยนำขวดน้ำพลาสติกที่ใช้แล้วมาเลี้ยงกบ เพื่อเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ให้แก่ครอบครัว โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนเหมาะแก่การเลี้ยงกบ และการขยายพันธ์กบ ซึ่งเกษตรกรได้นำกบแรกเกิดมาเลี้ยงใส่ไว้ในขวดน้ำพลาสติกที่ใช้แล้ว โดยนำขวดมาเจาะรูด้านบน และนำหัวขวดน้ำอีกอันตัดมาเสียบเป็นกรวย เพื่อใช้เป็นช่องหยอดอาหารไว้ให้แก่ลูกกบ โดยจะนำอาหารปลาเลี้ยงประมาณ 4 เดือน ก็จะได้กบประมาณ 4-5 ตัว ต่อ 1 กิโลกรัม และจะนำไปจำหน่ายได้กิโลกรัมละ 100 บาท
นายสมพงษ์ กล่าวว่า นำพ่อ-แม่พันธุ์กบนา มาเพาะเลี้ยงไว้ในบ่อซีเมนต์ขนาดกว้างหนึ่งเมตร โดยได้มีการแยกพ่อ-แม่พันธุ์ไว้คนละบ่อเมื่อต้องการจะผสมพันธุ์ก็จะคัดเลือกแม่พันธุ์ที่สมบูรณ์โดยสังเกตได้จากข้างท้องบวมๆ เนื่องจากเริ่มมีไข่แล้ว ส่วนพ่อพันธุ์กบจะเลือกจากตัวที่ร้องเสียงดัง แล้วนำมาอยู่ด้วยกันในบ่อซีเมนต์ โดยธรรมชาติของกบจะผสมพันธุ์กันในเช้ามืดคือ ช่วงเวลาตี 4 ถึง 6 โมงเช้า พอผสมพันธุ์เสร็จกบตัวเมียก็จะปล่อยไข่ออกมา จากนั้นเราก็จะนำพ่อแม่พันธุ์กบกลับไปยังบ่อซีเมนต์ตามเดิมโดยในบ่อนี้ให้เหลือเพียงไข่เท่านั้น จากนั้นประมาณ 24 ชั่วโมง ไข่ของกบก็จะเปลี่ยนเป็นลูกอ๊อด
หลังจากนั้น เลี้ยงต่อไปอีก 1 เดือน พอเข้าเดือนที่ 2 หางของลูกอ๊อดก็จะเริ่มหดจะเริ่มเป็นลูกกบแล้วในช่วงนี้ก็จะนำไปเลี้ยงต่อในขวดน้ำพลาสติกขนาด 5 ลิตร โดยมีการเจาะรูไว้ด้านบนขวดเพื่อใช้ระบายอากาศ แล้วใส่น้ำเข้าไปไม่ต้องมากพอให้กบได้ลงไปแช่ในน้ำได้ ให้อาหารวันละ 2 ครั้ง อาหารที่ให้ก็สามารถหาซื้อได้ตามท้องตลาดทั่วไป หรือว่านำอาหารที่ใช้สำหรับเลี้ยงปลาดุกก็ใช้ได้ มีการเปลี่ยนถ่ายน้ำบ่อยๆ พอกบตัวโตเต็มขวด ก็จับขายได้ ส่งขายราคากิโลกรัมละ 100 บาท ถ้าเป็นพ่อแม่พันธุ์จะขายคู่ละ 400 บาท
โดยพ่อค้าที่รับซื้อส่วนใหญ่จะรับซื้อนำไปทำอาหาร บางรายก็จะนำไปสะเดาะเคราะห์แก้บน ส่วนมากพ่อค้าที่มารับซื้อจะมาจากภูเก็ต และในพื้นที่ใกล้เคียง วันหนึ่งจะขายได้ประมาณ 4-5 กิโลกรัม ปัจจุบันได้มีการรวมตัวกันเป็นกลุ่มของชุมชนเพื่อเลี้ยงกบในขวดน้ำพลาสติกโดยตนจะให้คำแนะนำในการเลี้ยง ทำให้ชาวบ้านในหมู่บ้านมีรายได้เลี้ยงครอบครัวได้อย่างสบาย ซึ่งเป็นอาชีพเสริมที่สร้างรายได้หลังจากเสร็จจากภารกิจอาชีพหลัก
