ปัตตานี - คืบหน้ายึดทรัพย์เสี่ยโจ้เมืองปัตตานี เปิดตู้เซฟพบทองแท่ง ทองรูปพรรณ เพชร ร่วมร้อยล้าน ด้านหัวหน้าชุดปฏิบัติการปราบปรามภัยแทรกซ้อน พ.อ.จตุพร ยันไม่เคยให้ข่าวสื่อรับส่วย
จากกรณีที่ชุดปฏิบัติการปราบปรามภัยแทรกซ้อน กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กรมสรรพากร กรมบังคับคดี และเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เดินทางไปที่ หจก.สินทรัพย์ทวีค้าไม้ ซึ่งตั้งอยู่เขตอุตสาหกรรมของ อบจ.ปัตตานี เลขที่ 103/49 ถ.นาเกลือ หมู่ 8 ต.บานา อ.เมือง จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นของ นายสหชัย เจียรเสริมสิน หรือเสี่ยโจ้ อายุ 44 ปี นักธุรกิจค้าไม้ และน้ำมันรายใหญ่ จ.ปัตตานี หลังจากก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นพบดวงตราตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ปลอม ตู้เซฟเก็บเงินสดหลายสิบล้านบาท และไม้แปรรูป จนตกเป็นผู้ต้องหาในคดีปลอมแปลงเอกสารของทางราชการ
ล่าสุด วันนี้ (6 ส.ค.) เจ้าหน้าที่ได้ทำการเปิดตู้เซฟที่ระบุว่าเป็นของ นายสหชัย เจียรเสริมสิน หรือเสี่ยโจ้ จำนวน 8 ตู้ ซึ่งอยู่ภายในสำนักงานเสร็จเรียบร้อยแล้วตั้งแต่เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา ปรากฏว่า ภายในตู้เซฟมีทรัพย์สินจำนวนมาก โดย พ.อ.จตุพร กลัมพสุต รองผู้บังคับการกองกำลังทหารพรานจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในฐานะหัวหน้าชุดปฏิบัติการปราบปรามภัยแทรกซ้อน คณะทำงานพิเศษ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า ทรัพย์ที่อยู่ในตู้เซฟทั้ง 8 ตู้ นอกจากจะมีเงินสกุลบาท และริงกิต รวมแล้ว จำนวน 28 ล้าน 3 แสนบาท
ล่าสุด ยังมีทรัพย์สินซึ่งเป็นทองแท่ง ทองรูปพรรณ เพชร และพระ ที่ยังไม่สามารถประเมินราคาได้ในตอนนี้ เบื้องต้นคาดว่าน่าจะมากถึง 1 ร้อยล้านบาท ซึ่งเป็นหน้าที่ของกรมสรรพากร และกรมบังคับคดี ที่จะดำเนินการในเรื่องการประเมินทรัพย์ทั้งหมด โดยทรัพย์สินเมื่อประเมินราคารวบรวมได้แล้วก็จะนำไปชำระหนี้ภาษีสรรพากรกว่า 400 บาท ที่กรมสรรพากรได้ฟ้องล้มละลาย นายสหชัย ในคดีแดง 3488 ปี 2555 นอกจากนี้ กรณีเรื่องไม้แปรรูปขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าส่วนไหนผิดส่วนไหนถูก ต้องรอทางกรมป่าไม้ลงมาตรวจสอบอีกครั้ง เนื่องจากเบื้องต้นไม้แปรรูปที่มีตราประทับนั้นมีเพียง 2 เปอร์เซ็นต์ จาก 1 แสน 1 หมื่นชิ้น จึงไม่มั่นใจว่าไม้ทั้งหมดถูกต้องหรือไม่
ขณะที่บรรยากาศที่ หจก.สินทรัพย์ทวีค้าไม้ หลังจากเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจสอบแล้วเสร็จนั้น เจ้าหน้าที่นำโซ่ล็อกประตูไว้ไม่ให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปเด็ดขาด โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารพรานจากกรมทหารพรานที่ 43 เข้ามาดูแลความปลอดภัย และตรวจสอบบุคคลที่จะเข้ามาภายในบริเวณดังกล่าวอย่างเข้มงวด
สำหรับกรณีที่ นายสหชัย เจียรเสริมสิน หรือเสี่ยโจ้ อายุ 44 ปี ถูกชุดปฏิบัติการปราบปรามภัยแทรกซ้อน กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เข้าตรวจค้น และยึดทรัพย์เกิดขึ้นเมื่อ ปี 2555 เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวสงสัยว่า นายสหชัย ทำธุรกิจผิดกฎหมาย เช่น ค้าไม้เถื่อน ค้าน้ำมันเถื่อน และทำให้เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการปราบปรามภัยแทรกซ้อน กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ดำเนินการตามกฎอัยการศึก เข้าไปทำการตรวจสอบ และตรวจค้นจนนำไปสู่การจับกุม นายสหชัย ในข้อหาปลอมแปลงเอกสารของทางราชการ ปัจจุบันนายสหชัย ได้ประกันตัวออกมาแล้ว
พ.อ.จตุพร กลัมพสุต หัวหน้าชุดปฏิบัติการปราบปรามภัยแทรกซ้อน คณะทำงานพิเศษ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ยังเปิดเผยถึงประเด็นบัญชีส่วยด้วยว่า ประเด็นเรื่องเงิน 45 ล้านและเรื่องนักข่าวรับส่วยตนยืนยันว่า ตนไมได้พูดเลย สื่อเอาไปเขียน และดูมันเกินเลยมาก ตนคิดว่าสื่อเอาไปผูกเรื่องเก่าเมื่อปี 2555 ตนไม่เห็น สื่อเอาไปพูดกันเอง เพราะปี 2555 มีสื่อมวลชนบางส่วนเข้าไปพร้อมกับเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ และไปเห็นบัญชีอะไรไม่รู้บนโต๊ะเสมียน ซึ่งเป็นบัญชีที่ใช่หรือไม่ใช่ตนก็ไม่รู้ แต่ก็เอาเป็นประเด็นขึ้นมาแล้ว และมาระบุชื่อของตนเป็นคนให้ข่าวทำให้ตนเสียหาย