นราธิวาส - “หอการค้าไทย” มั่นใจเมืองชายแดนของจังหวัดนราธิวาส เป็นพื้นที่ที่เหมาะแก่การลงทุนรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หลังจากเยี่ยมชมงานของดีเมืองนราฯ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจชายแดน เผยผู้ประกอบการในพื้นที่มีศักยภาพสูง และสถานการณ์ความรุนแรงไม่ได้ส่งผลต่อการขยายตลาดการส่งออก
วันนี้ (2 ส.ค.) นายณัฐพงศ์ ศิริชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า การจัดงาน “ของดีเมืองนราฯ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจชายแดน” เป็นความร่วมมือระหว่างจังหวัดนราธิวาส สำนักงานพาณิชย์จังหวัดนราธิวาส และหอการค้าจังหวัดนราธิวาส เพื่อส่งเสริม และกระตุ้นเศรษฐกิจการค้าชายแดน อีกทั้งในช่วงนี้เป็นฤดูผลไม้ จึงเปิดโอกาสให้เกษตรกรนำผลผลิตออกมาจำหน่ายสร้างรายได้อีกทางหนึ่ง ประกอบกับมีการจัดประชุมใหญ่ของหอการค้า 14 จังหวัดภาคใต้ ที่มีนักธุรกิจเดินทางมาร่วมประชุมเป็นจำนวนมาก ดังนั้น จึงถือโอกาสแสดงศักยภาพของสินค้า และผลิตภัณฑ์จากผู้ประกอบการในจังหวัดนราธิวาส ว่า มีความพร้อมทั้งทรัพยากรบุคคล และวัตถุดิบ รวมถึงต้นทุนทางศิลปวัฒนธรรมที่เหมาะต่อการเจรจาธุรกิจเพื่อร่วมลงทุนขยายตลาดในอนาคต
ขณะที่ นายสมเกียรติ อนุราษฎร์ รองประธานหอการค้าไทย ยอมรับว่าการลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ทำให้เห็นถึงศักยภาพของคนในพื้นที่ว่ามีความพร้อมต่อการพัฒนาทางธุรกิจ โดยปัญหาสถานการณ์ความไม่สงบไม่ได้กระทบต่อการลงทุน หรือขยายตลาด เพราะสภาพพื้นที่จริงประชาชนอยู่อย่างเรียบง่าย และสถานการณ์ไม่ได้รุนแรงอย่างที่ปรากฏเป็นข่าว อีกทั้งมั่นใจว่า จังหวัดนราธิวาส มีอำเภอตามแนวชายแดนที่เหมาะต่อการลงทุนเป็นอย่างมากสำหรับนักธุรกิจที่ต้องการขยายตลาดเพื่อรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เพราะมีความพร้อมในหลายด้าน โดยเฉพาะประตูเศรษฐกิจที่เชื่อมต่อกับประเทศมาเลเซีย
ด้าน นายศรัณย์ วังสัตตบงกช ประธานหอการค้าจังหวัดนราธิวาส ขอบคุณรองประธานหอการค้าไทย และผู้แทนจากหอการค้า 14 จังหวัดภาคใต้ ที่ให้เกียรติเดินทางลงมาเยี่ยมพื้นที่จังหวัดนราธิวาส และมีการจัดประชุมใหญ่ขึ้นใน อ.สุไหงโก-ลก ซึ่งถือเป็นเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี หลังการก่อตั้งหอการค้าจังหวัดนราธิวาส พร้อมเรียกร้องให้มีการสนับสนุนด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ และระบบลอจิสติกส์ในพื้นที่เมืองชายแดนของจังหวัดนราธิวาส ซึ่งจะสร้างประโยชน์ให้แก่การขยายตัวของการค้า การลงทุนในภาพรวมของจังหวัดภาคใต้ ภายหลังการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนอย่างเป็นรูปธรรมในปี 2558