นราธิวาส - หอการค้านราธิวาส หวั่นเหตุระเบิดในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก หลายจุดกระทบความเชื่อมั่นการลงทุน ทำนักท่องเที่ยวต่างชาติหาย กระทบธุรกิจในท้องถิ่น พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพแผนรักษาความปลอดภัยใหม่ เตรียมจัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจมุ่งเน้นมาตรการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ วอนประชาชนช่วยเรียกความเชื่อมั่นกลับคืน
วันนี้ (14 พ.ค.) นายศรัณท์ วังสัตตบงกช ประธานหอการค้าจังหวัดนราธิวาส ยอมรับว่าเหตุระเบิดหลายจุดที่เกิดขึ้นในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของภาคเอกชน ประชาชน และนักท่องเที่ยว เพราะมีความเสียหายเกิดขึ้น และกระทบต่อภาคธุรกิจในพื้นที่ ซึ่งจะมีการประเมินความเสียหายในภาพรวมอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาหน่วยงานฝ่ายความมั่นคงได้พยายามคุมพื้นที่ และรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดจนไม่มีเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่มาเป็นเวลา 1 ปี หลังจากเกิดเหตุระเบิดที่โรงแรมเอเชีย อ.สุไหงโก-ลก เมื่อวันที่ 18 พ.ค.56 ที่ผ่านมา ทั้งที่ อ.สุไหงโก-ลก ถือเป็นพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญ จึงเป็นเป้าหมายของผู้ก่อความไม่สงบ จึงต้องขอชื่นชมเจ้าหน้าที่ด้วย แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ต้องมีการประชุมประเมินสถานการณ์ และแผนรักษาความปลอดภัยหลังจากนี้ว่าจะมีการปรับเปลี่ยน หรือเพิ่มความเข้มงวดในส่วนใดอีกบ้าง
นอกจากนี้ ในระยะสั้นจำเป็นต้องสร้างความมั่นใจให้แก่นักธุรกิจ ประชาชน และนักท่องเที่ยวในพื้นที่ทันที่ว่าจะไม่มีเหตุการณ์ในลักษณะเช่นนี้เกิดขึ้นในพื้นที่อีก ส่วนระยะยาวต้องมีการจัดทำแผนฟื้นฟูการพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่บนพื้นฐานความมั่นคง และความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน เรียกความเชื่อมั่นให้แก่ภาคเอกชนในพื้นที่ พร้อมทั้งควรมีแนวทางการสนับสนุนงบประมาณที่ชัดเจนสำหรับการลงทุนในพื้นที่ นอกจากการให้ดอกเบี้ยในอัตราพิเศษ เพื่อยึดกลุ่มนักธุรกิจเดิมไม่ให้โยกย้ายออกจากพื้นที่ และสร้างนักธุรกิจหน้าใหม่ให้เกิดขึ้น ในภาวะที่ทุกคนจำเป็นต้องช่วยกันทำให้ อ.สุไหงโก-ลก ยังคงเป็นพื้นที่ที่น่าอยู่ น่าอาศัย และเหมาะต่อการลงทุนต่อไป
วันนี้ (14 พ.ค.) นายศรัณท์ วังสัตตบงกช ประธานหอการค้าจังหวัดนราธิวาส ยอมรับว่าเหตุระเบิดหลายจุดที่เกิดขึ้นในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของภาคเอกชน ประชาชน และนักท่องเที่ยว เพราะมีความเสียหายเกิดขึ้น และกระทบต่อภาคธุรกิจในพื้นที่ ซึ่งจะมีการประเมินความเสียหายในภาพรวมอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาหน่วยงานฝ่ายความมั่นคงได้พยายามคุมพื้นที่ และรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดจนไม่มีเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่มาเป็นเวลา 1 ปี หลังจากเกิดเหตุระเบิดที่โรงแรมเอเชีย อ.สุไหงโก-ลก เมื่อวันที่ 18 พ.ค.56 ที่ผ่านมา ทั้งที่ อ.สุไหงโก-ลก ถือเป็นพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญ จึงเป็นเป้าหมายของผู้ก่อความไม่สงบ จึงต้องขอชื่นชมเจ้าหน้าที่ด้วย แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ต้องมีการประชุมประเมินสถานการณ์ และแผนรักษาความปลอดภัยหลังจากนี้ว่าจะมีการปรับเปลี่ยน หรือเพิ่มความเข้มงวดในส่วนใดอีกบ้าง
นอกจากนี้ ในระยะสั้นจำเป็นต้องสร้างความมั่นใจให้แก่นักธุรกิจ ประชาชน และนักท่องเที่ยวในพื้นที่ทันที่ว่าจะไม่มีเหตุการณ์ในลักษณะเช่นนี้เกิดขึ้นในพื้นที่อีก ส่วนระยะยาวต้องมีการจัดทำแผนฟื้นฟูการพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่บนพื้นฐานความมั่นคง และความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน เรียกความเชื่อมั่นให้แก่ภาคเอกชนในพื้นที่ พร้อมทั้งควรมีแนวทางการสนับสนุนงบประมาณที่ชัดเจนสำหรับการลงทุนในพื้นที่ นอกจากการให้ดอกเบี้ยในอัตราพิเศษ เพื่อยึดกลุ่มนักธุรกิจเดิมไม่ให้โยกย้ายออกจากพื้นที่ และสร้างนักธุรกิจหน้าใหม่ให้เกิดขึ้น ในภาวะที่ทุกคนจำเป็นต้องช่วยกันทำให้ อ.สุไหงโก-ลก ยังคงเป็นพื้นที่ที่น่าอยู่ น่าอาศัย และเหมาะต่อการลงทุนต่อไป